25 มิถุนายน 2564
อุตสาหกรรม
การทยอยฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกที่เริ่มมีสัญญาณดีขึ้นส่งผลให้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า การส่งออก PCB ปี 2564 จะขยายตัวต่อเนื่องราวร้อยละ 20.1 ถึง 24.1 หรือมีมูลค่าส่งออกราว 1,573 ถึง 1,626 ล้านดอลลาร์ฯ นำโดยความต้องการสินค้าในกลุ่ม ICT ซึ่งขับเคลื่อนโดยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 5G ที่เริ่มกลับมาดำเนินการได้หลังชะลอไปในปี 2563 และส่งผลให้ความต้องการอุปกรณ์สื่อสาร 5G ทั้งสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์โครงข่ายปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่เริ่มกลับมาช่วยหนุนความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค อาทิ อุปกรณ์ Smart devices ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอัจฉริยะ (Smart home device) นาฬิกาอัจฉริยะ (Smart watch) และช่วยพลิกฟื้นยอดขายยานยนต์ให้กลับมาเป็นบวก ถึงแม้การผลิตยานยนต์บางส่วนอาจยังเผชิญแรงกดดันจากการขาดแคลนชิปทั่วโลกแต่คาดว่าจะทยอยคลี่คลายในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 นอกจากนี้ ความต้องการอุปกรณ์การแพทย์อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งแบบพกติดตามตัวเพื่อวัดสัญญาณชีพ (อาทิ อุณหภูมิร่างกาย ระดับออกซิเจนในเลือด) รวมถึงแบบวินิจฉัยทางการแพทย์ ยังคงเติบโตได้แต่ในอัตราที่ชะลอลงตามภาวะการแพร่ระบาดทั่วโลกที่ถึงแม้จะดีขึ้น แต่ยังมีความไม่แน่นอนอยู่ ... อ่านต่อ
FileSize KB
25 กุมภาพันธ์ 2564
... อ่านต่อ
30 เมษายน 2563
การระบาดของไวรัสโควิดในปี 2563 น่าจะส่งผลกดดันให้มูลค่าการส่งออก PCB ของไทยโดยรวมหดตัวราวร้อยละ 20.9 ถึง 23.6 หรือมีมูลค่าส่งออกราว 927.4 ถึง 960.8 ล้านดอลลาร์ฯ ตามความต้องการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในตลาดโลกที่ลดต่ำลง ซึ่งเป็นผลหลักมาจากเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ภาวะถดถอย และการชะลอการลงทุนครั้งใหญ่ในโครงสร้างพื้นฐาน 5G ในหลายประเทศ อย่างไรก็ดี หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดคลี่คลาย และทิศทางเศรษฐกิจโลกเริ่มทยอยปรับตัวดีขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นในช่วงปี 2564 บวกกับการกลับมาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 5G ในหลายประเทศเพื่อแข่งขันกันเป็นผู้นำในระบบเศรษฐกิจดิจิทัลยุคใหม่ จะทำให้ความต้องการผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์โลกในปีหน้าน่าจะเริ่มฟื้นตัว และส่งผลให้การส่งออก PCB ของไทยสามารถพลิกกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งราวร้อยละ 3.0 ถึง 5.5 หรือมีมูลค่าส่งออกราว 955.4 ถึง 1,013.5 ล้านดอลลาร์ฯ ในปีหน้า ... อ่านต่อ
3 ตุลาคม 2562
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ไทยโดยรวมกำลังอยู่ในช่วงอิ่มตัว และมีบทบาทลดลงเรื่อยๆ ในห่วงโซ่อุปทานโลก ส่งผลให้ไทยจำเป็นต้องเร่งเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีในตลาดโลก แทนที่จะพยายามกลับไปแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในด้านค่าแรงและผลิตภัณฑ์เดิมที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มเท่าที่ควร โดยอาจต่อยอดจากจุดแข็งและความพร้อมของไทยที่ยังคงเป็นฐานผลิตหลักของผลิตภัณฑ์ที่ยังคงมีแนวโน้มเติบโตในตลาดโลกอย่างรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งอยู่ระหว่างการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีสู่รถยนต์ไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า IoT ทั้งนี้ การยกระดับห่วงโซ่อุปทานสู่เทคโนโลยีใหม่ดังกล่าว จะส่งผลให้การขยายตัวของการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไทยพลิกกลับมาเป็นบวกได้ที่ร้อยละ 0.2 ในปี 2565 คิดเป็นมูลค่าส่งออกส่วนเพิ่มราว 1,298 ล้านดอลลาร์ฯ จากที่คาดว่าจะติดลบต่อเนื่องในช่วงดังกล่าว... อ่านต่อ
23 กันยายน 2562
ไทยมีแนวโน้มที่จะสูญเสียความสามารถทางการแข่งขันและถูกแทนที่ด้วยประเทศเกิดใหม่ เช่น เวียดนาม เนื่องจากไทยไม่สามารถแข่งขันทางด้านต้นทุนค่าแรงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ขณะที่อุตสาหกรรมที่ไทยยังคงรักษาความสามารถทางการแข่งขันไว้ได้ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์ และอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ก็มีแนวโน้มที่จะเผชิญความท้าทายมากขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงขึ้นกับประเทศเกิดใหม่ต่างๆ ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า กลยุทธ์ที่ไทยควรดำเนินต่อไปในอนาคตคือไทยควรมุ่งเน้นยกระดับตนเองและเพิ่มศักยภาพการผลิตในอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง เพื่อให้ไทยยังสามารถแข่งขันในเวทีโลกและทิ้งห่างเวียดนามได้ อีกทั้งไทยควรเร่งปิดช่องว่างในเรื่องแรงงานทักษะสูงและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมถึงเร่งเดินหน้าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายต่างๆ ซึ่งหากไทยไม่สามารถยกระดับตนเองได้เท่าที่ควร ไทยก็อาจจะติดกับดักอยู่ที่เดิม และเผชิญการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นกับเวียดนามและประเทศเกิดใหม่อื่นๆ ซึ่งจะส่งผลให้ภาคการผลิตและภาคการส่งออกของไทยชะลอตัวลงไปเรื่อยๆ และมีแนวโน้มที่จะติดกับดักอยู่ในอัตราการขยายตัวที่ต่ำต่อไป... อ่านต่อ
13 กุมภาพันธ์ 2562
หนึ่งแนวโน้มเทคโนโลยีสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในช่วงปี 2562 คือ Hyper-Personalization ซึ่งเป็นการนำข้อมูลส่วนบุคคลเชิง Big Data มาประยุกต์ใช้ในการตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีความเฉพาะในแต่ละบุคคล ในมิติที่มากกว่าที่เคยทำได้ในอดีต Hyper-Personalization มีศักยภาพที่จะยกระดับการบริการในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร อุตสาหกรรมการคมนาคม ไปจนถึงอุตสาหกรรมสุขภาพ แต่ กระแสดังกล่าวยังคงมีประเด็นภาคปฏิบัติ เช่น การคัดเลือกตัวแปรข้อมูลเพื่อการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค การจัดการด้านคุณภาพของข้อมูล จนถึงประเด็นเรื่องสิทธิส่วนบุคคลของผู้บริโภค ซึ่งผู้ประกอบการที่ต้องการจะนำเทคโนโลยีนี้มาประยุกต์ใช้ต้องพิจารณาให้ดี ... อ่านต่อ
13 ตุลาคม 2559