ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ภาพรวมราคาสินค้าเกษตรของไทยในปี 2562 จะหดตัวร้อยละ 0.2-0.6 ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาที่หดตัวร้อยละ 5.9 ซึ่งราคามีแนวโน้มหดตัวในทุกรายการพืชเกษตรสำคัญอย่างข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง อ้อย และปาล์มน้ำมัน โดยได้รับแรงกดดันจากปริมาณผลผลิตสินค้าเกษตรที่ยังอยู่ในระดับสูง และแรงฉุดจากความต้องการจากจีนที่ชะลอลง
สำหรับในปี 2562 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การดำเนินงานด้านนโยบายการเกษตรของภาครัฐที่มีความต่อเนื่องจากโครงการเดิมที่ได้ดำเนินการไปแล้วในปีก่อนโดยเฉพาะนโยบายระยะสั้น ทั้งในส่วนของมาตรการที่ช่วยด้านการเกษตรโดยตรงและมาตรการที่ช่วยด้านรายได้เกษตรกร จะเป็นปัจจัยสำคัญในปี 2562 ที่จะช่วยรักษาเสถียรภาพด้านราคาสินค้าเกษตร และช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ที่ดีขึ้น ส่งผลต่อภาพรวมรายได้เกษตรกรในปี 2562 ที่คาดว่าน่าจะไม่แตกต่างจากปี 2561 มากนัก โดยคาดว่า รายได้เกษตรกรอาจหดตัวอยู่ที่ร้อยละ 0.4-0.8 จากผลของแรงฉุดด้านราคาเป็นสำคัญ
สำหรับนโยบายการเกษตรของภาครัฐในระยะยาว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า คงต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างภาคการเกษตร ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม แต่อาจต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรในยกระดับภาคเกษตรไทย ซึ่งภาครัฐต้องเน้นความช่วยเหลือไปที่การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงการให้องค์ความรู้ การช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้นด้วยต้นทุนที่ไม่สูงจนเกินไป และที่สำคัญคือ การเร่งผลักดันให้แนวทางการปฏิรูปภาคการเกษตร (เกษตร 4.0) ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) สามารถเกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น