สหภาพยุโรป (EU) ประกาศปลดล็อคใบเหลืองให้ไทย เมื่อวันที่ 8 ม.ค. 2562 หลังผลการแก้ไขปัญหา IUU Fishing เป็นรูปธรรม ทั้งนี้ แม้ว่าการปลดล็อคใบเหลืองจะช่วยหนุนภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าประมงไทย แต่แนวโน้มการส่งออกสินค้าประมงไทยไปยังตลาด EU ระยะต่อไป จะขึ้นอยู่กับความสามารถด้านการแข่งขันของสินค้าประมงส่งออกไทยเป็นสำคัญ เพราะปัจจุบันไทยยังค่อนข้างที่จะเสียเปรียบคู่แข่งสำคัญอย่าง เวียดนาม อินเดียและเอกวาดอว์ หลากหลายประการ ทั้งในเรื่องประเด็นด้านภาษีและสิทธิพิเศษทางการค้า การเติบโตของผลผลิตในประเทศคู่แข่ง ต้นทุนแรงงาน และค่าเงินบาทไทยที่มีทิศทางแข็งค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเป็นความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกไปยังตลาด EU
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การส่งออกสินค้าประมงไทยไปยังตลาด EU ในปี 2562 น่าจะมีโอกาสพลิกกลับมาขยายตัวเป็นบวกได้อีกครั้งในรอบ 8 ปี คิดเป็นมูลค่าประมาณ 400-410 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัวร้อยละ 0.0-2.0 (YoY) ส่วนประเด็นที่ต้องติดตามต่อไป สำหรับการส่งออกสินค้าประมงไทยไปยังตลาด EU อาจจะต้องจับตามาตรการปกป้องทางการค้า โดยเฉพาะความเข้มข้นด้านคุณภาพและมาตรฐานของสินค้า รวมถึงภาวะเศรษฐกิจของ EU ที่อาจจะกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค ทำให้ผู้ประกอบการยังจำเป็นต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อตอบโจทย์เทรนด์การบริโภคของคนยุโรปให้ได้อยู่เสมอ
อนึ่ง สำหรับภาพรวมการส่งออกสินค้าประมงของไทย ปี 2562 นอกจากปัจจัยบวกในตลาด EU เรื่องของการปลดล็อคใบเหลืองให้แก่ไทยแล้ว การส่งออกไปยังตลาดจีน ก็มีแนวโน้มที่จะขยายตัวดีต่อเนื่องจากปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากอุปทานที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนในประเทศ แม้ยังต้องติดตามประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ และแนวโน้มเศรษฐกิจจีนที่เติบโตชะลอลงก็ตาม ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงคาดว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าประมงของไทยไปยังตลาดโลกในปี 2562 มีโอกาสที่จะขยายตัวได้เมื่อเทียบกับทรงตัวในปี 2561
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น