ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
มองว่า โรงงานผลิตพืช (Plant Factory) เป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจในฐานะเครื่องมือทางการเกษตรที่มีความแม่นยำสูง
ด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ในยุคเกษตร
4.0 เพื่อเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร โดยคาดว่า
ไทยมีเทคโนโลยีโรงงานผลิตพืชที่ยังอยู่ในระยะเริ่มต้นในช่วง 3 ปีนี้ (ปี
2562-2564) เนื่องจากต้นทุนยังสูงอยู่ที่ราว 3.0 ล้านบาท
ผนวกกับความรู้ด้านเทคโนโลยีที่ยังจำกัดในเฉพาะกลุ่ม ซึ่งต้องเน้นไปที่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี
ตลอดจนต้องเน้นไปที่พืชที่สามารถนำมาสกัดได้สารสำคัญเป็นสารตั้งต้นเพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่สร้างมูลค่าเพิ่มสูงได้
(High-end
Product)
อย่างกลุ่มพืชสมุนไพร
และกลุ่มพืชที่สามารถนำมาสกัดเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในอุตสาหกรรมต่อเนื่องที่มีมูลค่าเพิ่มสูง
เช่น อุตสาหกรรมด้านการแพทย์ อุตสาหกรรมยา ผลิตภัณฑ์สุขภาพ อาหารเสริม
ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ผลิตภัณฑ์สปา เป็นต้น
มองต่อไป
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในระยะ 3-8 ปีข้างหน้า ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า น่าจะเห็นภาพที่ไทยมีการนำโรงงานผลิตพืชเข้ามาใช้ในภาคการเกษตรอย่างแพร่หลายมากขึ้น
และสามารถทำในลักษณะการค้าเชิงพาณิชย์ได้ ตามแนวทางของภาครัฐและเอกชนที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้
ตลอดจนจากการที่กลุ่มทุนมีการถ่ายทอดความรู้ด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
รวมถึงเทรนด์ของสินค้าจำพวกเทคโนโลยีที่มีแนวโน้มแพร่หลายมากขึ้นและมีราคาถูกลงเรื่อยๆ
โดยคาดว่า ตั้งแต่ปี 2565-2569 ต้นทุนโรงงานผลิตพืชอาจลดลงราวร้อยละ
20 ต่อปี ไปอยู่ที่ 1.0-2.4 ล้านบาท
ซึ่งจะทำให้ผู้ที่สนใจในธุรกิจโรงงานผลิตพืชเข้าสู่ธุรกิจได้ง่ายขึ้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น