ธุรกิจสายการบินกำลังเจอโจทย์ท้าทายอย่างหนัก เนื่องจากการแข่งขันตัดราคาจนอัตราค่าโดยสารเฉลี่ยลดลงอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสภาวะดีมานด์การเดินทางโดยเครื่องบินเริ่มชะลอตัว ส่งผลให้มูลค่าตลาดธุรกิจสายการบินลดลงเป็นครั้งแรกในปี 2562 เหลือเพียง 3.14 แสนล้านบาท
และในปี 2563 นี้ นอกเหนือจากปัจจัยด้านการแข่งขันตัดราคา และดีมานด์การเดินทางด้วยเที่ยวบินในประเทศที่ยัดคงหดตัวแล้ว การแพร่ระบาดของเชื้อไวไรโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน ก็อาจส่งผลให้ดีมานด์การเดินทางด้วยเที่ยวบินระหว่างประเทศหดตัวเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ภายใต้กรอบสมมุติฐานว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีนจะมีระยะเวลาเพียงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบในเชิงลบต่อ(1) จำนวนนักเดินทางจีนที่มาไทยลดลงประมาณ 1.1 ล้านคน (2) จำนวนนักเดินทางไทยที่ไปจีน ลดลงประมาณ 55,000 คน (3) จำนวนนักเดินทางต่างชาติอื่น ๆ ที่มาไทย ลดลงจากประมาณการเดิมประมาณ 320,0000 คน
กล่าวโดยสรุป ในปี 2563 มูลค่าธุรกิจสายการบินจะยังหดตัวลงอีก 4.3% - 6.2% เหลือมูลค่าเพียง 2.94-3.00 แสนล้านบาท และค่าเฉลี่ยของอัตราบรรทุกผู้โดยสารจะลดลงเหลือ 72.0% - 73.4% ซึ่งโดยปกติ สายการบินในไทยมีอัตราบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ยประมาณ 80% นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะทำให้ธุรกิจสายการบินสูญเสียมูลค่าตลาดไปประมาณ 8,000 – 11,000 ล้านบาท
หากธุรกิจสายการบินสามารถฝ่าฝันวิกฤตการณ์ในปีนี้ไปได้ ในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า ธุรกิจสายการบินจะพลิกกลับมาฟื้นตัวได้ เพราะการแข่งขันด้านราคาเริ่มมีแนวโน้มลดความรุนแรงลง เนื่องจากสายการบินราคาประหยัดเริ่มเปลี่ยนกลยุทธการแข่งขันเป็นการสร้างแบรนด์และเสนอบริการระดับพรีเมี่ยมมากขึ้น ส่วนสภาวะ ดีมานด์การเดินทางโดยเครื่องบินยังพอขยายตัวได้ แต่คงไม่กลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดเหมือนในช่วงปี 2559-2561 คาดว่ามูลค่าตลาดสายการบินจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง แต่คงต้องใช้เวลาและการเติบโตของมูลค่าตลาดเป็นไปอย่างช้า ๆ
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น