ปัจจุบันจีนมีทิศทางการส่งออกรถยนต์และเข้าไปลงทุนผลิตรถยนต์ในประเทศต่างๆทั่วทุกมุมโลกมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการตอบรับที่ดีค่อนข้างมากแม้กระทั่งในตลาดประเทศพัฒนาแล้ว ซึ่งในสถานการณ์ดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่าการส่งออกรถยนต์ของไทยเริ่มได้รับผลกระทบบ้างแล้วในตลาดส่งออกหลักเดิม เช่น ออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย จากรถยนต์สัญชาติจีน และมีโอกาสที่จะขยายผลกระทบมากขึ้น หากไม่มีการเตรียมการรับมือในประเทศ โดยเฉพาะการเร่งดึงดูดการลงทุนจากจีนตั้งแต่ขณะนี้
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ในสถานการณ์ดังกล่าว การผลักดันให้ไทยเข้าเป็นหนึ่งในฐานผลิตรถยนต์สัญชาติจีนที่สำคัญอีกแห่งแทนการเป็นคู่แข่งขันในขณะที่จีนกำลังมีแผนบุกตลาดโลก โดยเฉพาะในกลุ่มรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีโอกาสโตในตลาดโลกในอนาคต และการแสวงหาความตกลงการค้าเสรีร่วมกันกับประเทศใหม่ๆที่มีศักยภาพ น่าจะช่วยให้ไทยมีโอกาสแข่งขันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อค่ายรถยนต์สัญชาติจีนดำเนินกลยุทธ์มุ่งรุกตลาดส่งออกและรุกลงทุนผลิตรถยนต์ในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าอาจส่งผลดีต่อผู้บริโภคไทยในแง่ของการมีทางเลือกในตลาดมากขึ้น และเป็นโอกาสให้เกิดการขยายตัวของธุรกิจการขายและให้บริการหลังการขายรูปแบบต่างๆที่เพิ่มขึ้น ทว่าในอีกมุมหนึ่งก็อาจส่งผลกระทบต่อโอกาสในการทำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศของค่ายรถที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้วในไทยได้ทั้งสัญชาติญี่ปุ่นและตะวันตกอย่างไม่อาจเลี่ยง โดยเฉพาะเมื่อค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นมีประเภทรถยนต์ที่ทำตลาดอยู่ในระดับเดียวกันกับรถยนต์สัญชาติจีนอยู่หลายรุ่น ทั้งในกลุ่มรถยนต์นั่งและรถปิกอัพ ที่อาจต้องเผชิญการแข่งขันเพิ่มขึ้นและอาจสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดไปบางส่วนหลังต้องเจอกับคู่แข่งเป็นรถยนต์ราคาประหยัดกว่าจากค่ายรถสัญชาติจีน ซึ่งแต่ละค่ายรถอาจต้องมีการวางแผนรับมือในสถานการณ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ แม้ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ในไทยบางส่วนที่มีศักยภาพจะมีโอกาสเข้าไปอยู่ในห่วงโซ่อุปทานชิ้นส่วนผลิตรถยนต์สัญชาติจีนที่เข้ามาลงทุน แต่ก็อาจต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงทั้งจากชิ้นส่วนที่นำเข้ามาจากจีนเองที่ก็มีการทำข้อตกลง FTA ร่วมกันกับไทย รวมถึงปัจจุบันมีการเข้ามาลงทุนของผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จากจีนที่ใช้เทคโนโลยีระดับสูงด้วย
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น