Display mode (Doesn't show in master page preview)

27 สิงหาคม 2563

อุตสาหกรรม

ข้อตกลงการค้าเสรีหนุนอุตฯรถยนต์ไทยเชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทานโลก ผลักดันการลงทุนและการส่งออกของรถยนต์และชิ้นส่วนไทยเพิ่มขึ้น (กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 3129)

คะแนนเฉลี่ย

​                ปัจจุบันค่ายรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วน โดยเฉพาะค่ายญี่ปุ่น มีแนวโน้มที่จะปรับรูปแบบกระบวนการผลิตจากเดิมที่เน้นการลดต้นทุนแบบ Lean Production ป็นการผลิตแบบ Agile Supply Chain มากขึ้น เพื่อให้สามารถตอบสนองได้ทันต่อสถานการณ์ต่างๆที่อาจเปลี่ยนแปลงไปได้มากขึ้น ส่งผลให้การเลือกหาฐานการผลิตเพื่อรองรับต่อรูปแบบการผลิตใหม่ดังกล่าวมีความสำคัญขึ้นมา และหนึ่งในปัจจัยที่นักลงทุนใช้เลือกประเทศฐานการผลิตรูปแบบใหม่ คือ การมีความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศฐานผลิตอื่นนอกภูมิภาคมากขึ้น อันจะทำให้การดำเนินงานแบบ Agile Supply Chain เกิด  Economies of Scale ได้ง่ายยิ่งขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงเห็นว่าการเข้าร่วมเป็นสมาชิกหนึ่งในกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจต่างๆที่เชื่อมโยงไปยังตลาดผู้บริโภคหลักของโลก เช่น ตลาดอียู และตลาดอเมริกา จึงเป็นเรื่องสำคัญในการเพิ่มแรงดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ให้ไทยก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในห่วงโซ่อุปทานใหม่ โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า ที่เชื่อมโยงเอเชียและตลาดในต่างภูมิภาคให้เข้าหากันมากขึ้น ผ่านการใช้แพลตฟอร์มร่วมที่เพิ่มขึ้น

            ​    ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงมองว่า  การเข้าร่วมกลุ่มการค้าเสรี เช่น CPTPP ซึ่งมีประเทศในทวีปอเมริกาอย่างเม็กซิโกและแคนาดาเป็นสมาชิกด้วยอาจช่วยขยายโอกาสในการลงทุนและส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ของไทยไปยังญี่ปุ่นและเม็กซิโกได้มากขึ้น ผ่านการเชื่อมโยงการค้าที่เข้มข้นขึ้นของทั้ง 2 ทวีป  คือ อเมริกา (เม็กซิโกและแคนาดา) และเอเชีย (ญี่ปุ่น) โดยไทยมีโอกาสจะพัฒนาขึ้นไปเป็นฐานผลิตชิ้นส่วนในห่วงโซ่อุปทานการผลิตรถยนต์ของทั้ง 2 กลุ่มประเทศนี้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อค่ายรถนิยมใช้แพลตฟอร์มร่วมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ ไทยยังมีโอกาสที่จะส่งออกรถยนต์โดยตรงไปเม็กซิโกเพิ่มขึ้นเช่นกัน หลังเม็กซิโกต้องปรับลดภาษีลงจากร้อยละ 30 เหลือร้อยละ 0 ซึ่ง ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าหากไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกกลุ่ม CPTPP ภายในช่วง 5 ปีหลังข้อตกลงเริ่มมีผลบังคับใช้ ไทยน่าจะมีโอกาสส่งออกรถยนต์ได้มากขึ้นเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 8,500 ล้านบาท และส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ได้เพิ่มขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งกรณีดังกล่าวนี้จะเกิดได้ก็ต่อเมื่อการแสดงท่าทีของรัฐบาลในการเข้าร่วมเจรจานั้นไม่ล่าช้าเกินจนไป และการเปลี่ยนผ่านของเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้ายังเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป


ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


อุตสาหกรรม