ฤดูกาลเลือกตั้งเวียนมาถึงทำให้เกิดอาชีพสร้างรายได้หลากหลาย และอาชีพหนึ่งที่ได้รับอานิสงส์ก่อให้เกิดรายได้จากการเลือกตั้ง คือ อาชีพร้อยพวงมาลัยดอกดาวเรือง สาเหตุที่ดอกดาวเรืองเป็นที่นิยมมากกว่าดอกไม้ชนิดอื่นนั้น สันนิษฐานกันว่าเนื่องมาจากสีสันที่สดใสของดอกดาวเรือง ไม่เหี่ยวเฉาง่าย อีกทั้งชื่อของดอกไม้ก็มีความหมายไปในทางที่ดี เมื่อคล้องคอแล้วก็จะได้เจริญรุ่งเรืองไปตามชื่อของดอกไม้ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดการณ์ว่าในช่วงหาเสียงเลือกตั้งในช่วงปลายปี 2550 นี้จะเพิ่มเม็ดเงินสะพัดให้กับธุรกิจร้อยมาลัยดอกดาวเรืองประมาณ 30 ล้านบาท ทั้งนี้คำนวณจากจำนวนผู้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ระยะเวลาในการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดความต้องการพวงมาลัยดอกดาวเรือง ดังนั้นเท่ากับว่าผู้ที่เกี่ยวข้องกับดอกดาวเรือง ทั้งเกษตรกรผู้ปลูกและร้านจำหน่ายมาลัยดอกไม้สดต่างได้รับอานิสงส์ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เนื่องจากราคาดอกดาวเรืองปรับสูงขึ้น และความต้องการพวงมาลัยดอกดาวเรืองมีเพิ่มขึ้นด้วย จากเดิมความต้องการดอกดาวเรืองจะเพิ่มขึ้นเฉพาะในช่วงเทศกาลต่าง ๆ เช่น เข้าพรรษา ออกพรรษา ตรุษจีน เทศกาลไหว้บูชาเทพเจ้าของศาสนาฮินดู เป็นต้น
นอกจากนี้ปัจจุบันนอกจากดาวเรืองจะจัดเป็นไม้ตัดดอกเศรษฐกิจแล้วยังใช้เป็นวัตถุดิบป้อนอุตสาหกรรมหลายประเภท ดังนั้น ดาวเรืองจึงเป็นพืชเศรษฐกิจชนิดใหม่ที่น่าสนใจสำหรับเกษตรกร เนื่องจากเป็นพืชที่ลงทุนต่ำให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า และมีตลาดรองรับที่แน่นอน รวมทั้งการเก็บผลผลิตไม่ต้องพิถีพิถันไม่ให้ดอกช้ำเหมือนกับการเก็บเพื่อป้อนตลาดไม้ตัดดอก นอกจากนี้ยังมีลู่ทางในการลงทุนเปิดโรงงานสกัดสารแซนโทฟิลล์จากดาวเรืองในประเทศไทยในอนาคตเพื่อที่จะได้ไม่ต้องส่งออกดอกแห้งไปยังต่างประเทศ และนำเข้าสารเคมีที่สกัดได้มาใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ อีกต่อหนึ่ง ดังนั้นดาวเรืองจึงเป็นทั้งไม้ตัดดอกเศรษฐกิจ และยังจะเป็นไม้ตัดดอกที่ปลูกเพื่อป้อนโรงงานอุตสาหกรรมที่น่าสนใจในอนาคตอีกด้วย เช่น อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ อุตสาหกรรมยา อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง อุตสาหกรรมอาหารเสริมสุขภาพ เป็นต้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น