ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า อัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของไทยในไตรมาสที่ 4 ของปี 2550 จะขยายตัวประมาณร้อยละ 5.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า (Year-on-Year) ซึ่งสูงกว่าการขยายตัวที่ร้อยละ 4.9 ในไตรมาสที่ 3 โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของการใช้จ่ายในประเทศที่ฟื้นตัวดีขึ้น และการส่งออกยังขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้อัตราการขยายตัวของ GDP ของทั้งปี 2550 อยู่ที่ประมาณร้อยละ 4.6 ลดลงจากร้อยละ 5.1 ในปี 2549
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2551 นั้น ท่ามกลางความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มว่าจะรุนแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อช่วงปลายปี 2550 ภารกิจสำคัญของรัฐบาลจึงอยู่ที่การเตรียมรับมือกับสภาวะความผันผวนของปัจจัยภายนอกประเทศ โดยปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่สำคัญ ได้แก่ ปัญหาการชะลอตัวรุนแรงของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่อาจถึงขั้นถดถอย รวมทั้งปัญหาราคาน้ำมันที่ยังมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นได้อีก จากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่เพิ่มขึ้นนี้ คาดว่า การส่งออกอาจจะชะลอตัวลงอย่างมากในปี 2551 ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องพึ่งพาปัจจัยภายในประเทศเป็นหลัก ด้วยเหตุนี้ หลายฝ่ายจึงตั้งความหวังไว้ต่อบทบาทของรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง ในการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูความเชื่อมั่นของภาคเอกชน ซึ่งจะนำไปสู่การฟื้นตัวของการใช้จ่ายภายในประเทศ
โดยภาพรวม ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประมาณการแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2551 โดยประเมินว่า ปัญหาราคาน้ำมันจะทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2551 เร่งตัวสูงขึ้นมาอยู่ระหว่างร้อยละ 2.7-4.0 โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3.3 จากระดับร้อยละ 2.3 ในปี 2550 ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจจะชะลอตัวอย่างรุนแรงในช่วงครึ่งปีแรก มีค่ากลางของอัตราการขยายตัวในปี 2551 อยู่ที่ประมาณร้อยละ 0.8 โดยกรอบประมาณการอัตราการขยายตัวอยู่ระหว่างหดตัวลงร้อยละ 0.5 ถึงขยายตัวร้อยละ 1.5 ลดลงอย่างมากจากร้อยละ 2.2 ในปี 2550 ภายใต้สมมติฐานดังกล่าว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2551 อาจขยายตัวในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า โดยมีค่ากลางอยู่ที่ประมาณร้อยละ 4.6 และมีช่วงกรอบประมาณการระหว่างร้อยละ 4.0-5.2
ประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยปี 2550-2551
หน่วย: %YoY หรือระบุเป็นอย่างอื่น
|
2550
|
2551
|
|
|
|
กรอบประมาณการ
|
ค่ากลาง
|
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เฉลี่ย (ดอลลาร์ฯ) |
72.5
|
75.0-95.0
|
85.0
|
อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ |
2.2
|
-0.5 to +1.5
|
0.8
|
ราคาน้ำมันดีเซลเฉลี่ย (บาท) |
25.5
|
25.2-31.3
|
27.9
|
อัตราเงินเฟ้อทั่วไป |
2.3
|
2.7-4.0
|
3.3
|
อัตราการขยายตัวของ GDP |
4.6
|
4.0-5.2
|
4.6
|
การบริโภคของภาคเอกชน |
1.8
|
1.5-3.5
|
2.5
|
การลงทุน |
1.1
|
2.5-6.5
|
4.5
|
งบประมาณของรัฐบาล (% ของ GDP) |
-1.6
|
-1.6 to -3.0
|
-2.5
|
อัตราการขยายตัวของการส่งออก |
18.1
|
5.0-10.0
|
7.0
|
อัตราการขยายตัวของการนำเข้า |
9.6
|
7.0-13.0
|
9.0
|
ดุลบัญชีเดินสะพัด (พันล้านดอลลาร์ฯ) |
14.9
|
10.5-12.5
|
12.5
|
ที่มา: ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
ทั้งนี้ สิ่งสำคัญนับจากนี้ยังมีประเด็นเฉพาะหน้าหลายประการที่ยังคงต้องรอคอยความชัดเจนจากรัฐบาลใหม่ อาทิ แนวทางการแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ แผนการที่ชัดเจนของโครงการลงทุนของรัฐที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก ซึ่งต้องคำนึงถึงฐานะการคลังในระยะปานกลางถึงระยะยาวควบคู่ไปด้วย นอกจากนี้ การกำหนดแนวทางของมาตรการกันสำรอง 30% และแผนการรองรับผลกระทบจากการเก็งกำไรในค่าเงินบาท รวมทั้งการตัดสินใจของทางการต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศ ก็เป็นสิ่งที่ภาคธุรกิจและนักลงทุนต่างประเทศกำลังเฝ้าติดตาม
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น