§ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ได้รายงานอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2551 ว่าขยายตัวร้อยละ 6.0 จากปีก่อนหน้า และร้อยละ 1.4 จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเท่ากับที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ไว้ โดยการขยายตัวในไตรมาสแรกดังกล่าวได้รับแรงหนุนจากฐานที่ต่ำของปีก่อนหน้า รวมทั้งจากราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวขึ้น
§ ในขณะที่ สศช. ยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ไว้ที่ร้อยละ 4.5-5.5 เท่ากับประมาณการครั้งก่อนหน้า สศช. ได้ปรับเพิ่มประมาณการเงินเฟ้อสำหรับปี 2551 นี้ขึ้นเป็นร้อยละ 5.3-5.8 จากเดิมร้อยละ 3.2-3.7 อันเป็นผลจากราคาน้ำมัน ราคาสินค้าในหมวดต่าง ๆ และการปรับเพิ่มค่าจ้าง
§ สศช. ประมาณการอัตราการขยายตัวของการส่งออกในปีนี้ที่ร้อยละ 13.3 และการนำเข้าที่ร้อยละ 22.0 ซึ่งส่งผลให้คาดว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยในปี 2551 จะเกินดุล 6.0 พันล้านดอลลาร์ฯ
§ แม้เศรษฐกิจในไตรมาสแรกขยายตัวค่อนข้างสูง แต่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ในไตรมาสที่ 2/2551 ภาวะเงินเฟ้อคงจะส่งผลกดดันต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งอาจจะส่งผลให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี อย่างไรก็ตาม คาดว่าอัตราการขยายตัวของจีดีพีเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (Y-o-Y) อาจจะอยู่ใกล้เคียงร้อยละ 5.0 เนื่องจากผลของฐานเปรียบเทียบในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ค่อนข้างต่ำ
§ แนวโน้มเงินเฟ้อที่มีโอกาสเร่งตัวขึ้นในไตรมาสที่ 3/2551 จะยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลกดดันต่อเศรษฐกิจในไตรมาสถัดๆ ไป ให้ชะลอตัวลง นอกจากนี้ แรงกดดันจากสถานการณ์เผชิญหน้าทางการเมืองที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นอาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชน โดยเฉพาะนักลงทุนชาวต่างชาติ อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจภายในประเทศยังมีปัจจัยบวกจากราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อรายได้เกษตรกรและภาคเศรษฐกิจเกี่ยวเนื่องอื่นๆ ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2551 อาจจะมีอัตราการขยายตัวโดยเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณร้อยละ 4.9 ใกล้เคียงกับร้อยละ 4.8 ในปี 2550