แม้ว่าจากการจัดอันดับของหลายสถาบัน ความสามารถในการแข่งขันของไทยจะยังมีอันดับที่ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มประเทศในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากปัญหาการเมืองและการลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้ความน่าดึงดูดในการลงทุนของไทยในสายตาของนักลงทุนต่างชาตินั้นอาจลดลงไป ทำให้ในอนาคตไทยจะต้องแข่งขันกับชาติอื่นๆ มากขึ้นในการชักจูงนักลงทุนจากต่างประเทศให้เข้ามาลงทุน
ท่ามกลางปัจจัยที่บั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนไม่เพียงแต่กลุ่มที่ไม่เคยเข้ามาลงทุนในไทยมาก่อนเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงนักลงทุนรายเดิมซึ่งคุ้นเคยกับประเทศไทยดีอย่างนักลงทุนญี่ปุ่น ซึ่งก็ยังแสดงท่าทีชัดเจนถึงความกังวลต่อสถานการณ์ในประเทศไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า สิ่งเร่งด่วนที่ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรต้องเร่งดำเนินการ คือ การประชาสัมพันธ์และการสื่อสารที่ดีต่อกลุ่มนักลงทุน หอการค้าต่างประเทศ และสื่อต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหา น่าจะช่วยฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศได้ในส่วนหนึ่ง โดยสำหรับกรณีปัญหามาบตาพุดอาจต้องใช้เวลาในการแก้ไขตามกระบวนการ แต่สิ่งสำคัญนอกเหนือจากนั้น คือ ภาครัฐต้องเร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือ ชี้แจงข้อมูลเพื่อให้นักลงทุนมีความมั่นใจว่ารัฐบาลให้การใส่ใจดูแลและคุ้มครองกิจการที่เข้ามาลงทุนในประเทศอย่างเหมาะสม สำหรับข้อกังวลเรื่องสถานการณ์ทางการเมืองซึ่งยังมีความอ่อนไหว รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมีการเตรียมพร้อมเพื่อป้องกัน และต้องมีการเตรียมแผนสำรองเพื่อรับมือหากเกิดเหตุการณ์เช่นการปิดสนามบินและท่าเรือ
ในปัจจุบัน การเปิดตลาดการค้าเสรีในภูมิภาคอาเซียน จะส่งผลให้บริษัทข้ามชาติสามารถลงทุนตั้งฐานการผลิตในประเทศใดประเทศหนึ่งเพื่อส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในอาเซียนได้ ไทยจึงต้องเร่งเสริมความน่าดึงดูด และฟื้นสถานะการเป็นประเทศเป้าหมายหลักของการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน ก่อนที่นักลงทุนจะตัดสินใจเปลี่ยนไปลงทุนในประเทศอื่นแทน
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น