ภาพรวมของเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ขยายตัวดีกว่าที่คาด โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน (ขยายตัวร้อยละ 9.7) ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (ขยายตัวร้อยละ 11.4) ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (ขยายตัวร้อยละ 30.3) รายได้เกษตรกร (ขยายตัวร้อยละ 23.2) และการส่งออก (ขยายตัวร้อยละ 23.5) ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสภาวะที่บ่งชี้ว่า ;เส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมีความมั่นคงมากขึ้น”
อย่างไรก็ดี ความกังวลต่อเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศ เริ่มกลับมาส่งผลกดดันความเชื่อมั่นผู้บริโภคแล้ว ดังสะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวลงสู่ระดับ 78.4 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 จากระดับ 79.3 ในเดือนมกราคม ทั้งนี้ คงไม่สามารถปฏิเสธว่า ปัจจัยการเมืองเป็นประเด็นที่สำคัญต่อเส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค การลงทุนภาคเอกชน ตลอดจนการผลักดันรายจ่ายในส่วนของโครงการภาครัฐ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ภาพรวมของเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2553 มีทิศทางที่แข็งแกร่งกว่าที่คาด ซึ่งแม้ว่าส่วนหนึ่งจะได้รับอานิสงส์มาจากฐานเปรียบเทียบที่ต่ำในช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธว่า โมเมนตัมของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นตั้งแต่ในช่วงปลายปี 2552 ยังคงมีต่อเนื่องมายังช่วงไตรมาสแรกของปี 2553 ดังจะเห็นได้จากการขยายตัวต่อเนื่องในส่วนของเครื่องชี้ด้านการบริโภค-การลงทุนภาคเอกชน รายได้เกษตรกร การท่องเที่ยว และการส่งออก
ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงยังคงคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจไทยน่าที่จะขยายตัวในอัตราที่ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 6.0 (YoY) ในไตรมาส 1/2553 ซึ่งดีขึ้นเมื่อเทียบกับที่ขยายตัวร้อยละ 5.8 ในไตรมาส 4/2552 แต่กระนั้นก็ดี สถานการณ์การเมืองที่กลับเข้ามาเป็นปัจจัยที่สร้างความไม่แน่นอนให้กับเส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2553 นั้น อาจส่งผลกดดันความเชื่อมั่นของภาคเอกชน และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในภาพรวม แต่ระดับความรุนแรงของผลกระทบอาจอยู่ในช่วงร้อยละ 0.2-1.0 ของจีดีพี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการเผชิญหน้าทางการเมือง ซึ่งก็ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น