จากกระแสวิกฤตเศรษฐกิจและวิกฤตการเมืองที่รุมเร้าประเทศไทยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้คนไทย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธ ต่างหันเข้าหาที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวทางใจกันมากขึ้น ทำให้กระแสการทำบุญไหว้พระเพื่อสั่งสมบุญและสะเดาะห์เคราะห์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงวันสำคัญทางศาสนาและเทศกาลสำคัญต่างๆ ซึ่งรวมทั้ง เทศกาลปีใหม่ ที่นอกจากการทำบุญไหว้พระตามวัดในชุมชนหรือวัดที่เลื่อมใสศรัทธา หรือตามสถานที่ในชุมชนที่อยู่อาศัย หรือหน่วยราชการในแต่ละพื้นที่จัดขึ้น โดยนิมนต์พระตามวัดต่างๆมาทำพิธี เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวตลอดทั้งปี 2554 แล้ว หลายคนยังเลือกที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวตามต่างจังหวัดและถือโอกาสทำบุญไหว้พระ รวมไปถึงการสวดมนต์ ฟังธรรมข้ามปี ในคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2553 เพื่อเข้าสู่วันใหม่ในวันที่ 1 มกราคม 2554
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ทำการสำรวจ ;พฤติกรรมการฉลองปีใหม่ต้อนรับปี 2554 ของคนกรุงเทพฯ” ในระหว่างวันที่ 1-10 ธันวาคม 2553 จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 521 คน พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่วางแผนเข้าร่วมกิจกรรมทำบุญไหว้พระเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีทั้งการทำบุญ ตักบาตร และไหว้พระ ตามวัดในกรุงเทพฯ และการเดินทางไปตามต่างจังหวัดใกล้ๆในลักษณะเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับ ตลอดจนการเดินทางกลับบ้านในต่างจังหวัด และการไปเที่ยวค้างคืนตามต่างจังหวัด
โดยประเมินว่า การใช้จ่ายเพื่อร่วมกิจกรรมทำบุญไหว้พระในช่วงเทศกาลปีใหม่ของคนกรุงเทพฯ มีแนวโน้มก่อให้เกิดเม็ดเงินคิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 10 จากปีที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจที่เกี่ยวข้อง อาทิ ร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ ร้านจำหน่ายข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องดื่ม และอาหารกระป๋องต่างๆ รวมทั้งร้านจำหน่ายดอกไม้ ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการร้านค้าปลีกทั่วไปตามชุมชน ไปจนถึงร้านค้าปลีกรูปแบบทันสมัย ที่ต่างมีรายได้เพิ่มขึ้นจำนวนมากในช่วงเทศกาลปีใหม่ปีนี้ จากการเข้าร่วมกิจกรรมทำบุญไหว้พระของคนกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นตลาดที่มีกำลังซื้อสูง และมีแนวโน้มหันมาทำบุญไหว้พระเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น