เศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น และมาตรการเศรษฐกิจไทย ...ตัวแปรหลักผลักดันจีดีพีปี 54 เติบโต 4.0-5.0% (มองเศรษฐกิจฉบับที่ 3023)

แม้ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2554 มีแนวโน้มชะลอตัวลงจากที่เติบโตในระดับสูงในปี 2553 ที่ผ่านมา แต่จากตัวเลขเศรษฐกิจทั้งของไทยและต่างประเทศในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2553 ที่ส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าการประเมินในครั้งก่อน บวกกับรัฐบาลไทยมีมาตรการเศรษฐกิจออกมาในแนวทางที่จะกระตุ้นการใช้จ่าย ดังเช่นการเปิดตัวนโยบายประชาวิวัฒน์ ท่ามกลางบรรยากาศที่หลายฝ่ายพุ่งความสนใจไปที่การเลือกตั้งทั่วไปที่จะเกิดขึ้นข้างหน้า ปัจจัยที่เสริมเข้ามานี้ได้ช่วยผ่อนคลายความกังวลต่อปัจจัยลบทางเศรษฐกิจในปี 2554 ลงในระดับหนึ่ง

จากมุมมองเชิงบวกที่เพิ่มขึ้น ทำให้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2554 มีศักยภาพที่จะเติบโตสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ และได้ปรับเพิ่มประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2554 ขึ้นเป็นร้อยละ 4.0-5.0 จากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 3.5-4.5 อย่างไรก็ดี แม้สถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มมีทิศทางดีขึ้นกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ แต่ประเด็นปัญหาที่เคยกังวลเหล่านั้นก็ยังคงอยู่ และจะยังเป็นโจทย์สำคัญสำหรับรัฐบาลที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดในระยะต่อไป โดยปัญหาที่สำคัญ อาทิ เสถียรภาพการเติบโตของเศรษฐกิจโลก แม้สหรัฐฯ จะมีภาพที่ชี้ชัดขึ้นว่าการฟื้นตัวยังคงดำเนินต่อไป แต่จังหวะการฟื้นตัวยังไม่รวดเร็วเพียงพอที่จะลดอัตราการว่างงานลงอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งปัญหาหนี้ในยูโรโซนที่ยังไม่สิ้นสุด นอกจากนี้แรงกดดันเงินเฟ้อ ที่อาจกดดันให้ธนาคารแห่งประเทศยังคงต้องมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมถึงเสถียรภาพทางการเมืองในประเทศก็เป็นตัวแปรสำคัญที่จะมีผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจของรัฐและความเชื่อมั่นของภาคเอกชน

ขณะที่สภาพแวดล้อมทางธุรกิจในระยะข้างหน้า โจทย์ใหญ่ของผู้ประกอบการไทยคงเป็นเรื่องของแนวทางรับมือต่อต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งต้นทุนแรงงาน อัตราดอกเบี้ย ราคาวัตถุดิบ และราคาพลังงาน ซึ่งในปีนี้มีโอกาสที่จะเห็นราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกกลับขึ้นไปเหนือ 100 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล นอกจากนี้ ทิศทางอัตราแลกเปลี่ยนยังคงมีความผันผวน โดยค่าเงินบาทยังมีปัจจัยหนุนให้กลับมาแข็งค่าขึ้นได้อีก ปัจจัยทั้งหลายทั้งปวงนี้ล้วนแล้วแต่เป็นความท้าทายที่ผู้ประกอบการต้องเตรียมพร้อมเพื่อรับสถานการณ์ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นให้ได้อย่างทันท่วงที