ตัวเลขเศรษฐกิจไทยล่าสุดเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของเครื่องชี้ด้านการใช้จ่ายภายในประเทศและการส่งออก อย่างไรก็ดี โมเมนตัมของเครื่องชี้เศรษฐกิจส่วนใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ มีทิศทางอ่อนแอลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากจำนวนวันทำการที่ลดลงในช่วงเทศกาลตรุษจีนในเดือนกุมภาพันธ์) สอดคล้องกับความเชื่อมั่นภาคเอกชน (ทั้งในส่วนผู้บริโภคและภาคธุรกิจ) ที่สะท้อนความกังวลมากขึ้นต่อภาวะค่าครองชีพและต้นทุนการผลิตที่พุ่งสูงขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยการบริโภคภาคเอกชนและการผลิตภาคอุตสาหกรรมพลิกกลับมาหดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า ขณะที่ การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวได้ในอัตราที่ชะลอลง
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ในเบื้องต้นว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาส 1/2554 อาจชะลอตัวลงมาที่ประมาณร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) จากที่ขยายตัวร้อยละ 3.8 ในไตรมาส 4/2553 อย่างไรก็ตาม โมเมนตัมของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 1/2554 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) น่าจะเร่งตัวขึ้นตามอานิสงส์ของภาคการส่งออกและรายได้เกษตรกรที่อยู่ในเกณฑ์ที่แข็งแกร่งเกินคาด ขณะที่ ระดับราคาสินค้าที่ไม่ได้เร่งตัวขึ้นมากนักในช่วงที่ภาครัฐเข้ามาช่วยชดเชยราคาพลังงานในประเทศ ขยายเวลามาตรการ “รถเมล์-รถไฟ-ค่าไฟฟ้าฟรี” ตลอดจนขอความร่วมมือจากผู้ประกอบการในการตรึงราคาสินค้า ก็จะช่วยลดทอนภาระค่าครองชีพลงไปได้ค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ดี คาดว่า เศรษฐกิจไทยอาจเผชิญสถานการณ์ที่ท้าทายมากขึ้นเมื่อย่างเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 2/2554 โดยตัวแปรสำคัญคือ การทยอยส่งผ่านภาวะต้นทุนแพงของผู้ผลิตมายังราคาสินค้าผู้บริโภค ขณะที่ สถานการณ์ความขัดแย้งในภูมิภาคอาหรับที่อาจยืดเยื้อ น่าจะทำให้ราคาน้ำมันโลกทรงตัวอยู่ในระดับสูงในช่วงเวลาที่ยาวนาน นอกจากนี้ ยังคงต้องจับตาผลกระทบต่อเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นที่อาจมีผลต่อซัพพลายเชนการผลิตของบริษัทญี่ปุ่นในไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ และภาวะอุทกภัยในภาคใต้ที่อาจทำให้การผลิตบางอุตสาหกรรม (เช่น การผลิตกุ้ง และธุรกิจทางการเกษตร) ได้รับความเสียหาย และกระทบต่อจิตวิทยาในการตัดสินใจท่องเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวในภาคใต้ ทั้งนี้ จากภาพที่ประเมินได้ดังกล่าว ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสที่ 2/2554 น่าที่จะมีโมเมนตัมที่ชะลอลงมาอยู่ที่ประมาณร้อยละ 0.5 (QoQ) เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/2554
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น