ตัวเลขเศรษฐกิจไทยล่าสุดเดือนมีนาคม 2554 ขยายตัวได้อย่างแข็งแกร่งเกินคาดในหลายเครื่องชี้ โดยเฉพาะภาคการส่งออกที่ยังคงได้รับอานิสงส์จากสัญญาณเชิงบวกของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า และการใช้จ่ายภายในประเทศ ที่ฟื้นกลับมาขยายตัวในจังหวะที่เร่งขึ้น หลังจากที่ผลกระทบจากภาวะอุทกภัยในภาคใต้ยังอยู่ในวงจำกัด อย่างไรก็ดี การผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยยังอยู่ในช่วงหดตัว และเริ่มเห็นผลกระทบจากปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนสำหรับการผลิตในบางอุตสาหกรรมของไทยแล้ว ซึ่งผลของการลดกำลังการผลิตจากปัญหาด้านอุปทานดังกล่าว อาจยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ เครื่องชี้เศรษฐกิจของไทยในเดือนมีนาคมและในไตรมาสแรก ที่ยังคงขยายตัวได้ดี น่าที่จะทำให้ตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาสที่ 1/2554 ขยายตัวในจังหวะที่เร่งขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสสุดท้ายของปี 2553 (QoQ) ก่อนที่จะมีทิศทางที่แผ่วลงในช่วงไตรมาสที่ 2/2554 จากการฉุดรั้งของการชะลอตัวของภาคการผลิต และการส่งออกของไทยตามการลดกำลังการผลิตของอุตสาหกรรมในญี่ปุ่น และการขยับขึ้นของภาระค่าครองชีพของผู้บริโภค อย่างไรก็ดี มาตรการในเชิงผ่อนคลายของภาครัฐเพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน อาทิ การดูแลราคาสินค้าจำเป็น ตลอดจนความพยายามล่าสุดที่จะมีแผนผลักดันมาตรการอสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก และการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงาน ก็น่าที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากปัจจัยลบที่เกิดขึ้น และทำให้เศรษฐกิจไทยยังประคับประคองแรงส่งของการขยายตัวไว้ได้
สำหรับทิศทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2554 นั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า หากปัญหาการขาดแคลนไฟฟ้าและวิกฤตนิวเคลียร์ในญี่ปุ่นคลี่คลายลงในช่วงไตรมาสที่ 3/2554 ก็น่าที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งหลังของปี ได้รับแรงหนุนกลับมาจากการเร่งกำลังการผลิตของหลายๆ อุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ขณะที่ การขยายอายุมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล และราคาก๊าซ LPG/NGV สำหรับภาคครัวเรือนและขนส่ง อาจช่วยชะลอจังหวะการเร่งตัวขึ้นของเงินเฟ้อและค่าครองชีพ ซึ่งย่อมจะทำให้ภาระรายจ่ายเพื่อการบริโภคของภาคเอกชนเบาบางลง อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่มีโอกาสทรงตัวในระดับสูง และกระแสการเคลื่อนย้ายเงินทุนที่อาจมีความผันผวนมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ก็อาจเป็นปัจจัยที่เพิ่มแรงเสียดทานต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น