อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ยังอยู่ในช่วงชะลอตัว แม้จะมีแรงผลักจากการขยับขึ้นของราคาทั้งในหมวดอาหาร/เครื่องดื่ม และในหมวดที่ไม่ใช่อาหาร/เครื่องดื่ม ทั้งนี้ คงต้องยอมรับว่า การเพิ่มขึ้นของต้นทุนการผลิตและการขนส่ง หลังราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศปรับตามราคาตลาดโลก และการเพิ่มการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ มีผลต่อเนื่องมาที่ภาพของราคาสินค้าอุปโภคบริโภคค่อนข้างชัดในเดือนนี้
-
อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.37 (MoM) และร้อยละ 3.35 (YoY) ในเดือนก.พ. เทียบกับร้อยละ 3.38 (YoY) ในเดือนม.ค.
-
อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.11 (MoM) และอยู่ที่ร้อยละ 2.72 (YoY) ในเดือนก.พ. เทียบกับร้อยละ 2.75 (YoY) ในเดือนม.ค. เงิน
สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อปี 2555 นั้น เนื่องจากประเด็นแวดล้อมของเงินเฟ้อล่าสุดไม่แตกต่างไปจากที่คาด ดังนั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงยังคงมุมมองเดิมว่า เงินเฟ้อครึ่งปีแรกจะอยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนักจากผลของฐานเปรียบเทียบ โดยเงินเฟ้ออาจชะลอลงมามีค่าเฉลี่ยที่ประมาณร้อยละ 3.3-3.4 ก่อนจะมีโอกาสเร่งตัวขึ้นสูงกว่าร้อยละ 4.0 ในช่วงครึ่งปีหลังตามกระบวนการส่งผ่านแรงกดดันด้านต้นทุนของผู้ผลิต
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2555 จะมีค่าเฉลี่ยที่ร้อยละ 3.9 (กรอบคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.5-4.5) ขณะที่ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 2555 อาจมีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าปี 2554 มาอยู่ที่ ร้อยละ 3.0 (กรอบคาดการณ์ที่ร้อยละ 2.6-3.6) ทั้งนี้ คงต้องจับตาทิศทางการเคลื่อนไหวของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ยังมีโอกาสขยับขึ้นเข้าใกล้กรอบบนของกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปัจจุบันร้อยละ 0.5-3.0 ของธปท.ในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งเป็นช่วงที่แรงกดดันเงินเฟ้อจะกลับมาสูงขึ้น พร้อมๆ กับโมเมนตัมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และอาจมีนัยตามมาต่อการกำหนดจุดยืนเชิงนโยบายการเงินของธปท. ในช่วงเวลานั้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น