ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 ของคนกรุงเทพฯ ในช่วงระหว่างวันที่ 5-15 มีนาคม 2555 จากจำนวนกลุ่มตัวอย่าง 616 ราย ที่มีอายุระหว่าง 15-65 ปี ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า เม็ดเงินใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2555 จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 28,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยบรรยากาศในการจับจ่ายและทำกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ นับว่าค่อนข้างคึกคัก หากเทียบจากวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา แม้ว่าปัจจุบันประชาชนยังต้องเผชิญกับปัญหาค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นจากราคาสินค้าและราคาน้ำมัน ที่ทำให้ภาระค่าใช้จ่ายสูงขึ้น แต่โดยรวมแล้ว ประชาชนก็ยังคงมีกำลังซื้อเพียงพอที่จะตั้งงบประมาณในการจับจ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเริ่มมีทิศทางปรับตัวดีขึ้นจากช่วงปลายปีที่เผชิญกับวิกฤตมหาอุทกภัย ส่งผลให้คนกรุงเทพฯ เริ่มคลายความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจ มีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจมากขึ้น ประกอบกับประชาชนเริ่มผ่อนคลายจะปัญหาอุทกภัยเมื่อช่วงปลายปี จึงส่งผลให้บรรยากาศในการจับจ่ายช่วงสงกรานต์ปีนี้ของคนกรุงเทพฯ ค่อนข้างคึกคัก
สำหรับเหตุการณ์ความไม่สงบทางภาคใต้ที่เกิดขึ้นในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ โดยเฉพาะเมืองท่องเที่ยวอย่างเช่น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แม้ว่าจะส่งผลต่อบรรยากาศโดยรวมของการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ทางภาคใต้ แต่จะมีผลต่อเม็ดเงินในการจับจ่ายของคนกรุงเทพฯ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ค่อนข้างน้อย เนื่องจาก อ.หาดใหญ่ไม่ใช่จุดหมายปลายทางหลักในการท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ แต่อย่างไรก็ตาม จากปัญหาความไม่สงบทางภาคใต้อาจส่งผลกระทบในส่วนของรายได้จากการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ (มาเลเซีย) ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลัก อย่างน้อยในระยะสั้น
การท่องเที่ยวของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ถึงแม้ว่าในปีนี้ จะมีวันหยุดราชการเพียงแค่ 4 วันแต่คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ก็ยังคงเลือกที่จะวางแผนเดินทางออกนอกกทม. และมีสัดส่วนที่มากขึ้นกว่าปีที่แล้ว โดยคนที่วางแผนจะเดินทางท่องเที่ยวทั้งในต่างจังหวัด และในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น แทนการเลือกที่จะใช้เวลาในช่วงวันหยุดเทศกาลภายในกทม. การเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับ และการเดินทางกลับบ้านภูมิลำเนาเดิมที่ต่างจังหวัด สำหรับเม็ดเงินสะพัดจากการจับจ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ พบว่าเม็ดเงินมาจากการใช้จ่ายในการเดินทางกลับบ้านต่างจังหวัด 10,300 ล้านบาท (ร้อยละ 36.1) การอยู่ทำกิจกรรมต่างๆ และเที่ยวภายในกทม.6,500 ล้านบาท (ร้อยละ 22.8) การเดินทางท่องเที่ยวในต่างจังหวัด 6,000 ล้านบาท (ร้อยละ 21.1) และการเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ 5,700 ล้านบาท (ร้อยละ 20)
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น