เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 1/2555 พลิกกลับมาขยายตัวร้อยละ 0.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน (YoY) หลังจากที่ทรุดตัวลงร้อยละ 8.9 (YoY) ในช่วงไตรมาส 4/2554 จากผลของอุทกภัย ทั้งนี้ หากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า จีดีพีที่ปรับฤดูกาล ขยายตัวร้อยละ 11.0 (QoQ, Seasonally Adjusted) ซึ่งนับเป็นอัตราที่มากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2536 เป็นอย่างน้อย
แรงหนุนของเศรษฐกิจไทยมาจากกิจกรรมการฟื้นฟูหลังน้ำท่วมของภาคเอกชน ทั้งในส่วนของการบริโภคและการลงทุน ที่พลิกกลับมาขยายตัวร้อยละ 2.7 และร้อยละ 9.2 (YoY) ในไตรมาส 1/2555 ตามลำดับ ทั้งนี้ การฟื้นตัวของการใช้จ่ายภาคเอกชนดังกล่าว เป็นทิศทางที่สอดคล้องกับความเชื่อมั่นภาคเอกชน (ทั้งในมุมมองของผู้บริโภค ธุรกิจ และภาคอุตสาหกรรม) ที่ทยอยฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องหลังน้ำลด อย่างไรก็ดี การผลิตภาคอุตสาหกรรม ที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับปกติได้ทั้งหมด ก็ส่งผลเพิ่มแรงกดดันต่อภาคการส่งออกที่ในอีกด้านหนึ่งก็เผชิญกับภาวะการชะลอตัวของประเทศคู่ค้า โดยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและการส่งออก (สินค้าและบริการ) หดตัวต่อเนื่องอีกร้อยละ 4.2 และร้อยละ 3.2 (YoY) ในไตรมาส 1/2555 ตามลำดับ
สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2555 นั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวในอัตราที่เร่งขึ้นในช่วง 3 ไตรมาสข้างหน้าจากผลของฐานที่ต่ำในปีก่อน โดยจีดีพีอาจขยายตัวในกรอบใกล้เคียงร้อยละ 4.0 (YoY) ในช่วงระหว่างไตรมาสที่ 2/2555 และไตรมาสที่ 3/2555 ก่อนจะเร่งการขยายตัวขึ้นสู่ระดับตัวเลขสองหลักในช่วงปลายปี และเนื่องจากมุมมองของศูนย์วิจัยกสิกรไทยต่อตัวแปรที่อาจมีผลต่อทิศทางเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปี 2555 ยังไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก โดยเศรษฐกิจไทยที่มีจังหวะขยายตัวตามแรงกระตุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมจากนโยบายเศรษฐกิจ และกระบวนการฟื้นตัวจากผลกระทบน้ำท่วม น่าจะช่วยบรรเทาภาพด้านลบจากความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกที่มีต่อภาคการส่งออกลง และทำให้คาดว่า ภาพรวมของเศรษฐกิจในปี 2555 น่าจะยังคงขยายตัวอยู่ในกรอบประมาณการเดิมที่ร้อยละ 4.5-6.0 อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามพัฒนาการของวิกฤตหนี้ยุโรป โดยเฉพาะความเสี่ยงของกรีซ ซึ่งอาจมีผลต่อประมาณการเศรษฐกิจไทยต่อไปอย่างใกล้ชิด
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น