เทศกาลวาเลนไทน์หรือเทศกาลวันแห่งความรัก เป็นช่วงโอกาสที่บรรดาผู้ประกอบการธุรกิจต่างรอคอยด้วยความคาดหวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่สามารถกระตุ้นยอดจำหน่ายสินค้าและบริการได้เพิ่มขึ้นในช่วงต้นปี แม้ว่าปี 2556 นี้ สัญญาณการปรับขึ้นราคาสินค้าโดยเฉพาะราคาดอกกุหลาบ และราคาอาหารจะมีแนวโน้มปรับเพิ่มสูงขึ้น แต่คาดว่า ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและวัยเริ่มต้นทำงาน (ช่วงอายุระหว่าง 15-35 ปี) ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเทศกาลนี้ ก็ยังคงให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์และยังคงมีการใช้จ่ายเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ปี 2556 การจับจ่ายในช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ของคนกรุงเทพฯที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก (อายุระหว่าง 15-35 ปี) จะมีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 1,300 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.4 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากราคาสินค้า โดยเฉพาะราคาอาหารที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับสินค้าที่คนกรุงเทพฯคาดว่า จะซื้อให้เป็นของขวัญในปีนี้นั้นมีมูลค่าที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย ในขณะที่ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยทุกกิจกรรมในช่วงวาเลนไทน์อยู่ที่ประมาณ 1,280 บาท/คน เทียบกับปีที่แล้วที่มีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,220 บาท/คน เทศกาลวาเลนไทน์ ดังนั้น เทศกาลวาเลนไทน์น่าจะเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่ทำรายได้ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูกดอกกุหลาบ ธุรกิจร้านจัดดอกไม้ ห้างสรรพสินค้า หรือแม้แต่ร้านอาหาร และโรงภาพยนตร์
อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าสังเกตว่า นอกจากการซื้อสินค้ามอบให้เป็นของขวัญ รวมถึงการทำกิจกรรมพิเศษอื่นๆ ร่วมกันแล้ว คนกรุงเทพฯ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของวันวาเลนไทน์ก็ได้มีการเพิ่มช่องทางการแสดงความรักผ่าน Social Media กันมากขึ้น โดยส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า Social Media เป็นช่องทางที่มีความสะดวก รวดเร็วกว่าร้อยละ 88 อีกทั้งยังมีการใช้ Smart phone และ Tablet ในการเข้าถึง Social Media อยู่เป็นประจำ ดังนั้น Social Media น่าจะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการ ในการสร้างการรับรู้ของแบรนด์ให้กับผู้บริโภคได้ เช่น การสร้างสติ๊กเกอร์แบรนด์สินค้าที่ใช้ใน Apps. Chat ต่างๆ หรืออีการ์ด เป็นต้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น