จากการสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2556 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า เทศกาลสงกรานต์ที่มีวันหยุดยาวติดต่อกัน 5 วันในปีนี้ น่าจะทำให้บรรยากาศในการจับจ่ายและทำกิจกรรมต่างๆ ของคนกรุงเทพฯ คึกคักกว่าปีที่ผ่านมา แม้ว่าปัจจัยในเรื่องของค่าครองชีพ และความไม่สะดวกในการเดินทาง ยังคงสร้างความกังวลให้กับคนกรุงเทพฯ บางส่วน แต่โดยรวมแล้วคนกรุงเทพฯ ก็ยังคงให้ความสำคัญ และมีกำลังซื้อเพียงพอที่จะตั้งงบประมาณในการจับจ่าย และเตรียมตัวสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ;เพิ่มขึ้น” จากปี 2555 โดยภาพรวมคนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ยังคงเลือกที่จะใช้วันหยุดอยู่ภายในกรุงเทพฯ อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า ในปีนี้คนกรุงเทพฯ มีแนวโน้มเลือกใช้วันหยุดอยู่ในกรุงเทพฯ ลดลงจากปีที่แล้ว และวางแผนที่จะเดินทางออกนอกกรุงเทพฯ เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีวันหยุดยาวติดต่อกันถึง 5 วัน
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การจับจ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ของคนกรุงเทพฯ ปี 2556 จะมีเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 31,500 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 10.5 (YoY) แบ่งเป็นเม็ดเงินที่สะพัดภายในประเทศกว่า 25,500 ล้านบาท และเม็ดเงินที่ไหลออกนอกประเทศจากการท่องเที่ยวกว่า 6,000 ล้านบาท โดยกิจกรรมหลักที่คนกรุงเทพฯ นิยมทำภายในประเทศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ได้แก่ เฉลิมฉลอง/เลี้ยงสังสรรค์ (8,400 ล้านบาท) ช็อปปิ้ง (7,000 ล้านบาท) ค่าเดินทาง/ที่พัก (5,600 ล้านบาท) ทำบุญ (3,500 ล้านบาท) และกิจกรรมอื่นๆ (1,300 ล้านบาท) โดยเม็ดเงินดังกล่าวน่าจะกระจายไปยังธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจร้านจำหน่ายของฝาก/ของที่ระลึก รวมไปถึงธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งผู้ประกอบการแต่ละธุรกิจไม่ควรพลาดโอกาสในช่วงเวลาดังกล่าวในการทำยอดขายเพิ่มขึ้น โดยการออกโปรโมชั่นหรือแคมเปญต่างๆ เพื่อกระตุ้นการจับจ่ายของคนกรุงเทพฯ
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น