เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในช่วงเดือนมี.ค. 2556 สะท้อนภาพการหดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า (MoM) ของภาวะการใช้จ่ายในประเทศ (การบริโภคภาคเอกชน -1.1%MoM การลงทุนภาคเอกชน -0.7%MoM) ยกเว้น ปริมาณจำหน่ายยานยนต์ และน้ำมันเชื้อเพลิง ที่น่าจะได้รับอานิสงส์ตามการส่งมอบรถยนต์ตามคำสั่งซื้อค้างจอง และกิจกรรมส่งเสริมการขายของผู้ประกอบการ โดยการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม การนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค และการนำเข้าเครื่องจักร/อุปกรณ์ และสินค้าทุนอื่นๆ หดตัวลง สอดคล้องกับการชะลอการขยายตัวของสินเชื่อ ทั้งในส่วนของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ระมัดระวังและเข้มงวดกับการให้สินเชื่อมากขึ้น
อย่างไรก็ดี การส่งออก (+4.9% MoM) และการผลิตภาคอุตสาหกรรม (+4.1% MoM) กลับมาปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าในเดือนมี.ค. 2556 ซึ่งแม้อาจสะท้อนภาพที่ดีกว่าการใช้จ่ายในประเทศ แต่กระนั้น ยังคงต้องติดตามความต่อเนื่องของสัญญาณการขยายตัว เนื่องจากเส้นทางการฟื้นตัวในช่วงเริ่มแรกของภาคการส่งออกและการผลิตของอุตสาหกรรมที่เน้นตลาดต่างประเทศเป็นตลาดหลักนั้น ยังอาจไม่ราบรื่นมากนัก ท่ามกลางความเปราะบางของเศรษฐกิจคู่ค้า และหลายตัวแปรความเสี่ยงที่อาจส่งผลกดดันต่อบรรยากาศการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการหลายกลุ่ม
ทั้งนี้ สัญญาณการใช้จ่ายภายในประเทศที่อาจจะแผ่วลงตามการทยอยหมดผลของปัจจัยหนุนพิเศษดังเช่นในปีก่อน และสถานการณ์ที่ท้าทายของการฟื้นตัวในภาคการส่งออกและภาคการผลิต ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงมองว่า มีความเป็นไปได้ที่อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยจะโน้มชะลอลงตลอดทั้งครึ่งแรกของปี 2556 โดยจีดีพีอาจขยายตัวในระดับประมาณร้อยละ 5.3 (YoY) ในช่วงไตรมาส 1/2556 ก่อนจะชะลอลงมาที่ร้อยละ 4.3 ในช่วงไตรมาสที่ 2/2556
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น