เครื่องชี้เศรษฐกิจไทยล่าสุดเดือนเม.ย. 2556 สะท้อนภาพการหดตัวจากเดือนก่อนหน้าของการบริโภค การลงทุนภาคเอกชน และการผลิตภาคอุตสาหกรรม ขณะที่ การส่งออกยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน
- การลงทุนภาคเอกชน หดตัวลงจากเดือนก่อนหน้าร้อยละ 0.6 (MoM) และลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนร้อยละ 1.1 (YoY) ในเดือนเม.ย. 2556 [นำโดย การนำเข้าสินค้าทุนที่ยังคงหดตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม] เทียบกับที่ขยายตัวร้อยละ 3.1 (YoY) ในเดือนมี.ค. 2556 ส่วนการบริโภคภาคเอกชนนั้น แม้จะหดตัวลงร้อยละ 0.5 (MoM) แต่ยังคงขยายตัวร้อยละ 1.7 (YoY) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งใกล้เคียงกับที่ขยายตัวร้อยละ 1.8 (YoY) ในเดือนมี.ค. โดยการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเติบโตสอดคล้องกับกิจกรรมการใช้จ่ายในประเทศ ขณะที่ การนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค และยอดขายยานยนต์ ยังขยายตัวได้ในเกณฑ์ดี แม้จะมีผลของฐานที่สูงในปีก่อนหน้า
- การส่งออกขยายตัวร้อยละ 3.7 (YoY) ในเดือนเม.ย. ชะลอลงจากร้อยละ 4.2 (YoY) ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นภาพที่สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมในหมวดที่เน้นการส่งออกที่หดตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สามอีกร้อยละ 13.0 (YoY) ในเดือนเม.ย. หลังจากที่หดตัวร้อยละ 8.6 (YoY) ในเดือนมี.ค. ซึ่งเมื่อรวมกับผลของการชะลอตัวของอุปสงค์ในประเทศ ทำให้ภาพรวมของการผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยในเดือนเม.ย. กลับไปหดตัวลงอีกครั้งที่ร้อยละ 3.8 (YoY) จากที่ขยายตัวร้อยละ 1.2 (YoY) ในเดือนก่อน
โดยสรุป ภาพการหดตัวของการใช้จ่ายในประเทศ และการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนแรกของไตรมาส 2/2556 สะท้อนว่า เศรษฐกิจไทยเข้าสู่ช่วงไตรมาส 2 ด้วยสถานการณ์การชะลอตัวต่อเนื่องของการใช้จ่ายภายในประเทศ และเส้นทางการฟื้นตัวของการส่งออกที่เลื่อนเวลาออกไป ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังคงคาดว่า อัตราการขยายตัวของจีดีพีประจำไตรมาส 2/2556 อาจชะลอลงมาที่ร้อยละ 4.3 (YoY) จากร้อยละ 5.3 (YoY) ในไตรมาส 1/2556
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น