อนุสัญญาแรงงานทางทะเล ค.ศ. 2006 (Maritime Labour Convention : MLC) เป็นกฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับข้อกำหนดมาตรฐานแรงงานทางทะเล ฉบับใหม่ล่าสุด ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2556 เป็นต้นมา
ประเทศไทยในฐานะที่เป็นสมาชิกขององค์กรแรงงานระหว่างประเทศ(ILO) ยังไม่ได้ให้สัตยาบัน (Non-Ratify) อนุสัญญาแรงงานทางทะเลฉบับนี้ เนื่องจากยังต้องรอผ่านกระบวนการทางกฎหมายภายในประเทศ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านของไทยอย่างเช่น สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และมาเลเซียได้ให้สัตยาบันไปแล้ว
ธุรกิจเดินเรือระหว่างประเทศถือได้ว่าเป็นธุรกิจที่มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของโลกอย่างมาก เนื่องจากการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศมากกว่าร้อยละ 90 ยังขนส่งโดยเรือเดินทะเลระหว่างประเทศ
และบนเรือเดินทะเลระหว่างประเทศเหล่านั้นยังต้องใช้แรงงานจำนวนมากในการทำหน้าที่ต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนสินค้าให้ไปสู่เมืองท่าปลายทางที่ต้องการ แรงงานที่ทำงานบนเรือเดินทะเลส่วนใหญ่จะต้องเดินทางไกลเป็นระยะเวลานานๆ เพื่อขนส่งสินค้าจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง สภาพการทำงานที่ต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติในท้องทะเล และต้องถูกกดดันจากรูปแบบของเรือที่มีพื้นที่ในการทำงานจำกัด จึงกลายเป็นปัญหาที่ทำให้แรงงานบนเรือเดินทะเลระหว่างประเทศบางส่วนอาจจะถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยไม่สามารถที่เรียกร้องสิทธิต่างๆ ได้ เนื่องจากต้องเดินทางอยู่กลางทะเลเป็นระยะเวลานานนับเดือน
ปัจจุบันแรงงานที่ทำงานอยู่บนเรือเดินทะเลทั่วโลกมีมากกว่า 1.2 ล้านคน โดยมีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่เรือเดินทะเลทั่วโลกประมาณ 20,000-30,000 คน
ปัญหามาตรฐานแรงงานถือได้ว่าเป็นประเด็นที่นานาประเทศให้ความสำคัญมากขึ้น ผ่านทั้งทางข้อตกลงภายใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ กรอบการค้าเสรี รวมไปถึงมาตรการการค้าของประเทศคู่ค้า ซึ่งอาจมีการตรวจสอบมาตรฐานแรงงานของสินค้านำเข้าตลอดสายการผลิต ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจไทยจึงจำเป็นต้องดูแลสภาพแวดล้อมในการทำงานในสถานประกอบการให้สอดคล้องตามมาตรฐานสากล ไม่เช่นนั้นอาจจะเป็นอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาดต่างประเทศได้
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น