สถานะของตลาดแรงงานไทยในปัจจุบัน นับว่าอยู่ในระดับกลางเมื่อเทียบกับภูมิภาคอาเซียน โดยเสียเปรียบอินโดนีเซียและกลุ่มประเทศ CLMV ในด้านจำนวนแรงงานและต้นทุนค่าจ้าง อ่อนด้อยกว่าฟิลิปปินส์ในด้านภาษา และตามหลังสิงคโปร์/มาเลเซียในด้านคุณภาพแรงงาน กระนั้นก็ดี จุดยืนของตลาดแรงงานไทยกำลังถูกคุกคามจากปัญหาการขาดแคลนแรงงานและผลิตภาพแรงงานที่ชะลอตัวลง ซึ่งในขณะเดียวกัน ก็เป็นประเด็นสำคัญที่กำลังลดทอนช่องว่างความได้เปรียบของอุตสาหกรรมไทยที่มีเหนือคู่แข่ง ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงในภาคการผลิตอาเซียนในปัจจุบันเช่นกัน
แรงงานเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญนอกเหนือจากปัจจัยทุนและเทคโนโลยี ที่เป็นตัวกำหนดระดับศักยภาพของเศรษฐกิจไทย (Potential Growth) ตลอดจนความสามารถในการแข่งขันของประเทศในระยะข้างหน้า ดังนั้น หากว่าไทยต้องการรักษาอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับศักยภาพที่ประมาณร้อยละ 5 ต่อปี ท่ามกลางโจทย์ท้าทายรอบด้าน ทั้งผลิตภาพทุนที่ชะลอตัวลงตามการสะสมทุน ระดับเทคโนโลยีที่ยังต้องพัฒนา และกำลังแรงงานที่แทบไม่เพิ่มขึ้น (อีกทั้งต้องอาศัยเวลาอีกระยะใหญ่ในการเพิ่มอัตราการขยายตัวของกำลังแรงงาน) ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเร่งเพิ่มผลิตภาพแรงงานของประเทศผ่านการยกระดับคุณภาพแรงงาน ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะภาครัฐบาล ที่ต้องทำหน้าที่เป็นแกนกลางสร้างความสอดคล้องระหว่างการผลิตบุคลากรและเป้าหมายการพัฒนาประเทศ จัดตั้งหน่วยงานกลางที่มีหน้าที่ในการพัฒนาผลิตภาพปัจจัยการผลิต ควบคู่ไปกับการกระตุ้นให้ผู้ใช้แรงงานและผู้ประกอบการมีความตื่นตัวในการพัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน ตลอดจนมีนโยบายด้านสวัสดิการแรงงาน และแรงงานต่างด้าวที่ชัดเจน
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การบูรณาการด้านแรงงานดังกล่าว จะช่วยยกระดับผลิตภาพแรงงานไทยและบรรเทาความรุนแรงของภาวะความตึงตัวในตลาดแรงงานที่ไทยกำลังประสบอยู่ลงได้บางส่วน โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานทักษะระดับล่างและกลาง อันจะเป็นการช่วยรักษาจุดยืนของตลาดแรงงานไทยในอาเซียน และเพิ่มความสามารถในการรองรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมไทยเพื่อรักษาช่องว่างความได้เปรียบของภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศต่อไป
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น