ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีการส่งออกแรงงานไปทำงานในต่างประเทศและทำรายได้ส่งกลับประเทศค่อนข้างสูง โดยมีรายได้ส่งกลับของแรงงานและผู้พำนักในต่างประเทศสูงเป็นอันดับที่ 24 ของโลก และเป็นอันดับ 10 ของภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ ในปี 2556 แรงงานไทยที่ออกไปทำงานในต่างประเทศ มีการส่งรายได้กลับสู่ประเทศคิดเป็นมูลค่าถึง 88,047 ล้านบาท ขณะที่ ธนาคารโลกประเมินว่า หากรวมรายได้ของคนไทยที่พำนักในต่างประเทศแล้ว รายได้จากการส่งเงินกลับประเทศของคนไทย อาจมีมูลค่ารวมกันราว 170,716 ล้านบาท (5,555 ล้านดอลลาร์ฯ) หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 1.4 ของจีดีพีในปี 2556
อย่างไรก็ตาม แรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยหากมองย้อนกลับไปในช่วงเวลาเพียง 15 ปีที่ผ่านมา จำนวนแรงงานไทยออกไปทำงานในต่างประเทศลดลงไปเกือบครึ่งหนึ่งมาที่ 130,511 คนในปี 2556 จากที่เคยสูงสุดถึง 202,416 คนในปี 2542 ขณะที่ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2557 แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในต่างประเทศยังคงลดลงร้อยละ 3.8 โดยลดลงในแทบทุกตลาดหลัก
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2557 แรงงานไทยที่เดินทางออกไปทำงานในต่างประเทศอาจมีจำนวนต่ำกว่า 130,000 คน ขณะที่ แนวโน้มการเคลื่อนย้ายแรงงานไทยออกไปทำงานในต่างประเทศในอนาคต อาจจะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป จากการส่งออกแรงงานพื้นฐาน เช่น แรงงานก่อสร้าง ไปสู่การเคลื่อนย้ายแรงงานที่มีทักษะสูงขึ้น โดยประเด็นที่ต้องจับตานับจากนี้ คือทิศทางการเคลื่อนย้ายแรงงานภายหลังการรวมเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ซึ่งอาจเป็นแรงกระตุ้นให้แรงงานวิชาชีพของไทยในบางสาขาออกไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น
ดังนั้น การเคลื่อนย้ายแรงงาน ทั้งการไหลออกของแรงงานไทยที่มีทักษะสูง และการไหลกลับของแรงงานต่างด้าวไปยังประเทศของตัวเอง จึงเป็นความท้าทายต่อการจัดการปัญหาการขาดแคลนแรงงานของประเทศไทยในอนาคต ด้วย
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น