ตลาดน้ำมันโลกเข้าสู่ภาวะหมี (Bear Market) มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนต.ค. 2557 โดยราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับลดลงมาแล้วกว่าร้อยละ 36 จากระดับที่สูงกว่า 111 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรลในช่วงเดือนมิ.ย. 2557 มาเคลื่อนไหวในกรอบใกล้ๆ 70 ดอลลาร์ฯ/บาร์เรลในช่วงต้นเดือนธ.ค. 2557 ท่ามกลางหลายสัญญาณที่สะท้อนถึงภาวะอุปทานส่วนเกินในตลาดน้ำมัน ทั้งนี้ ทิศทางตลาดพลังงานโลกดังกล่าว เป็นสถานการณ์ที่เอื้อให้กระบวนการปรับโครงสร้างราคาพลังงานภายในประเทศ ที่เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญของรัฐบาล มีความคืบหน้าไปได้หลายส่วน ซึ่งล่าสุดคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ก็มีมติถอนการอุดหนุนราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (ก๊าซ LPG) ปรับเพิ่มราคาก๊าซ NGV และลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลลง อีกครั้ง
จากการที่ราคาขายปลีกพลังงานในประเทศมาถึงจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญอีกครั้งดังกล่าวข้างต้น ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะเกิด 2 เหตุการณ์สำคัญในช่วง 6 เดือนข้างหน้า (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากการปรับสมดุลของอุปสงค์-อุปทานในตลาดน้ำมันโลก ไม่ส่งผลทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก เคลื่อนไหวในกรอบที่สูงไปกว่าระดับในปัจจุบันมากนัก) ซึ่งก็คือ 1) มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่ทิศทางเงินเฟ้อในช่วง 6 เดือนหลังจากนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบใกล้เคียงร้อยละ 1.0 หรือมีโอกาสลงไปต่ำกว่าร้อยละ 1.0 ในบางเดือน และ 2) พื้นที่สำหรับการผ่อนคลายนโยบายการเงินของกนง. เปิดกว้างขึ้นและยาวนานขึ้น ซึ่งอาจทำให้กนง. สามารถพิจารณาจุดยืนของอัตราดอกเบี้ยนโยบายในระดับที่ผ่อนคลายมากขึ้นกว่าร้อยละ 2.00 ในปัจจุบัน
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น