ศูนย์วิจัยกสิกรไทย สำรวจพฤติกรรมผู้ปกครองในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2560 ผลสำรวจ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ มองว่า เศรษฐกิจอยู่ในภาวะทรงตัวถึงดีขึ้น รวมถึงกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 62 ไม่กังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องทางการเงินในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2560 ในจำนวนนี้ ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการเรียนเสริมทักษะ (เช่น ดนตรี กีฬา) การทำกิจกรรมพิเศษในโรงเรียน รวมถึงการเรียนกวดวิชาเพิ่มเติมเป็นพิเศษ เมื่อเทียบกับในช่วงเปิดเทอมใหญ่ของปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ยังไม่ปรับลดค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลาน เมื่อเทียบกับในช่วงเปิดเทอมใหญ่ของปีที่ผ่านมา โดยแหล่งที่มาของงบประมาณเพื่อใช้จ่ายของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 80 มาจากเงินเก็บออม
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า จากมุมมองของผู้ปกครองส่วนใหญ่ที่ยังมองว่าสถานการณ์เศรษฐกิจอยู่ในภาวะทรงตัวถึงดีขึ้น เมื่อเทียบกับในช่วงเปิดเทอมใหญ่ของปีที่ผ่านมา ประกอบกับค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลานเป็นค่าใช้จ่ายที่สามารถวางแผนหรือคาดการณ์ได้ล่วงหน้า ส่งผลให้ผู้ปกครองส่วนใหญ่ไม่กังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องทางการเงินในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2560 โดยส่วนใหญ่ยังไม่ปรับลดค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาของบุตรหลาน รวมถึงส่วนใหญ่ยังใช้จ่ายจากเงินเก็บออม สะท้อนถึงการเตรียมความพร้อมด้านการเงินของผู้ปกครองไว้ล่วงหน้า
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2560 ผู้ปกครองในกรุงเทพฯ และปริมณฑล น่าจะใช้จ่ายด้านการศึกษาสำหรับบุตรหลานคิดเป็นเม็ดเงินสะพัด 27,000 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4 เมื่อเทียบกับในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2559โดยการใช้จ่ายด้านค่าเทอม และค่าเรียนกวดวิชา หนุนให้เม็ดเงินค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาโดยรวมยังสามารถขยายตัว เมื่อเทียบกับในช่วงเปิดเทอมใหญ่ปี 2559
ทั้งนี้ ในช่วงก่อนเปิดเทอมใหญ่ปี 2560 นี้ ผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา ทั้งผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้า โรงเรียนกวดวิชา และโรงเรียนเสริมทักษะ ยังคงตรึงราคาสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่องจากในปีที่ผ่านมา เพื่อยังคงรักษาฐานลูกค้าไว้ และช่วงชิงเม็ดเงินการใช้จ่ายด้านการศึกษาสำหรับบุตรหลานที่สะพัดในช่วงก่อนเปิดเทอมใหญ่
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น