อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนก.ย. 2560 ขยับขึ้นมาอยู่ที่ร้อยละ 0.86 YoY สูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 8 เดือนแรกที่อยู่ที่ร้อยละ 0.56 และเป็นการเพิ่มขึ้นเดือนต่อเดือน (Month-on-Month) ที่เร่งตัวเร็วที่สุดในรอบ 66 เดือน (นับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2555) ตามการปรับขึ้นของค่าไฟฟ้า ราคาสินค้าในหมวดพลังงาน รวมถึงราคาสินค้าในหมวดยาสูบและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 ยังมีหลายปัจจัยที่เข้ามาผลักดันราคาสินค้าบางกลุ่มให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
ราคาทางด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นตามทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบดูไบในช่วง 50-53 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรลในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 ซึ่งนับเป็นระดับที่สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่เฉลี่ยอยู่ที่ 47.9 ดอลลาร์ฯ ต่อบาร์เรล ซึ่งจะส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ รวมไปถึงราคาก๊าซ LPG-NGV สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
ค่าโดยสารสาธารณะมีทิศทางปรับเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้าย ไม่ว่าจะเป็นค่าโดยสารรถไฟฟ้า BTS ที่ปรับขึ้น 1-3 บาท/คน/เที่ยวเดินทาง มีผลตั้งแต่ 1 ต.ค. 2560 นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปลงวิธีการให้สวัสดิการทางด้านการเดินทางโดยสารสาธารณะอย่างรถโดยสารประจำทางไม่ปรับอากาศและรถไฟชั้น 3 ที่แต่เดิมให้ประชาชนทุกคนสามารถโดยสารฟรีได้มาเป็นการหักมูลค่าออกจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสำหรับผู้มีรายได้น้อย อาจส่งผลให้ดัชนีราคาสินค้าหมวดค่าโดยสารสาธารณะในตะกร้าเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ผลของการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตน่าจะสะท้อนเข้ามาที่ดัชนีราคาสินค้าผู้บริโภคในเดือนต.ค. 2560 อีกบางส่วนศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ผลของปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้นคงผลักดันอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงไตรมาสที่ 4 ให้ปรับตัวสูงขึ้นกว่าร้อยละ 1.0 แต่ก็คาดว่าผลกระทบน่าจะอยู่ในขอบเขตจำกัด เนื่องจากในฝั่งของผู้บริโภคเอง บางส่วนได้รับแรงหนุนจากมาตรการภาครัฐในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ซึ่งน่าจะช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้นจากราคาสินค้าได้ส่วนหนึ่ง ประกอบกับสภาวะตลาดในปัจจุบันนี้ ผู้บริโภคยังระมัดระวังการใช้จ่าย จึงคาดว่าผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังคงไม่ปรับราคาสินค้าและบริการ ส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยตลอดทั้งปี 2560 ยังคงประมาณการไว้ที่ร้อยละ 0.8
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น