ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า เม็ดเงินใช้จ่ายของคนกรุงฯ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 29,600 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 4.0 เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้ว่ามาตรการช็อปช่วยชาติในปีนี้จะออกมาเร็วกว่าปีก่อนๆ แต่ผู้ประกอบการก็มีการกระตุ้นการขายต่อเนื่องไปตลอดทั้งช่วงเทศกาล อย่างไรก็ดี กำลังซื้อของผู้บริโภคในภาพรวมยังถูกกดดันด้วยหนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพที่ยังคงอยู่ในระดับสูง รวมถึงความกังวลกับกำลังซื้อในอนาคต ทำให้การวางแผนใช้จ่ายของผู้บริโภคยังเป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้มีฐานรายได้ต่อเดือนไม่สูงมาก
โดยเม็ดเงินใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 แยกเป็นค่าใช้จ่ายอาหารและเครื่องดื่ม 9,000 ล้านบาท รองลงมาคือ ท่องเที่ยวในประเทศ (เฉพาะค่าที่พักและค่าเดินทาง) 8,200 ล้านบาท ซื้อของขวัญ/ของฝาก (ทั้งมอบให้ตัวเองและผู้อื่น) 8,100 ล้านบาท การให้เงินพ่อแม่/พี่น้องเป็นของขวัญปีใหม่ 2,000 ล้านบาท และทำบุญ/ไหว้พระ 1,600 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายอื่นๆ (อาทิ ดูหนัง ฟังเพลง) 700 ล้านบาท ในขณะที่งบประมาณใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนอยู่ที่ 5,400 บาท
ในปีนี้คนกรุงฯ ร้อยละ 75 ยังเลือกจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการจากร้านค้าปลีกที่มีหน้าร้าน (Offline) นำโดยห้างสรรพสินค้า ซึ่งเหตุผลหลักที่คนกรุงฯ ยังชื่นชอบมาเดินห้าง เพราะต้องการเลือกซื้อสินค้าและสัมผัสของจริง รองลงมาคือ เดินเล่นและร่วมกิจกรรมที่ถูกจัดขึ้น ตามลำดับ ดังนั้น กลุ่มนี้จึงเป็นลูกค้าที่ผู้ประกอบการควรเข้าไปทำตลาดและกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด ส่วนกลยุทธ์การตลาดที่คาดว่าจะสามารถดึงความสนใจผู้บริโภคได้ น่าจะเป็นการชูเรื่องความคุ้มค่าคุ้มราคา เพราะการจับจ่ายเลือกซื้อสินค้า โดยเฉพาะของขวัญของฝากในปีนี้ ยังเน้นไปที่สินค้าที่หาซื้อง่าย สามารถสื่อแสดงถึงน้ำใจ ภายใต้งบประมาณที่ไม่สูงนัก
ในมุมมองคนกรุงฯ หากต้องเลือกแหล่งช็อปปิ้งในช่วงปีใหม่ สิ่งแรกที่คำนึงถึงคือ ความหลากหลายของร้านค้าที่มีให้บริการ ตามมาด้วยที่จอดรถเพียงพอ/รอจอดไม่นาน และมีบริการก่อนและหลังการขายที่ดี ดังนั้น รูปแบบการให้บริการที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนกรุงฯ ได้อย่างตรงจุด และการทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงความคุ้มค่า หรือเป็นคนพิเศษเมื่อเลือกใช้บริการ น่าจะช่วยให้ผู้บริโภคเกิดการตัดสินใจเลือกใช้บริการได้เร็วขึ้น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น