Display mode (Doesn't show in master page preview)

5 ตุลาคม 2550

เศรษฐกิจไทย

กินเจปี’50 : ราคาผักพุ่ง...เงินสะพัดทั่วไทย 6,000 ล้านบาท (กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 1994)

คะแนนเฉลี่ย
เทศกาลกินเจในปี 2550 นี้อยู่ในระหว่างวันที่ 11-20 ตุลาคมคาดว่าคึกคักเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ปัจจัยหนุนเทศกาลกินเจในปีนี้คือ การเชื่อมโยงการเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา โดยตั้งวัตถุประสงค์ว่าเป็นการกินเจเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการทำบุญถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้คาดหมายว่าในปีนี้จำนวนคนที่จะหันมาร่วมกินเจในช่วงเทศกาลกินเจมีเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามอุปสรรคสำคัญของเทศกาลกินเจในปีนี้คือ ราคาผักที่มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้น แม้ว่าในช่วงเทศกาลกินเจทุกปีราคาผักจะมีแนวโน้มสูงขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว แต่ในปีนี้มีแนวโน้มว่าราคาผักจะสูงเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากราคาผักหลายประเภทมีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์สูงมาตั้งแต่ต้นปี และยิ่งใกล้เทศกาลกินเจราคาก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาอาหารเจสำเร็จรูปประเภทตักขายและอาหารเจตามสั่งน่าจะมีแนวโน้มแพงขึ้น โดยคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 5-10 บาทเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคอาหารเจต้องปรับตัว โดยการหันไปซื้ออาหารเจสำเร็จรูป เช่น อาหารกล่องแช่แข็ง ติ่มซำเจ เบเกอรี่เจ อาหารเจกระป๋อง เป็นต้น รวมทั้งอาหารเจกึ่งสำเร็จรูป เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป เป็นต้น กันมากขึ้น จึงคาดว่าอาหารเจสำเร็จรูปรวมทั้งอาหารเจกึ่งสำเร็จรูปมีแนวโน้มจะมียอดจำหน่ายสูงขึ้น เนื่องจากราคาอาหารเจเหล่านี้ราคาไม่ได้ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมากนัก
อย่างไรก็ตามเทศกาลกินเจเป็นหนึ่งในเทศกาลที่บรรดาธุรกิจที่เกี่ยวข้องสามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นเทศกาลหนึ่ง ดังนั้นหลากหลายธุรกิจหันมาเกาะกระแสอาหารเจในฐานะที่เป็นอาหารสุขภาพ ซึ่งเป็นกระแสที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน โดยจะเห็นได้จากที่เริ่มมีการประชาสัมพันธ์ถึงเทศกาลกินเจในสื่อต่างๆ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม ซึ่งในปีนี้ผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้จำหน่ายอาหารเจสำเร็จรูปประเภทตักขายหรืออาหารเจตามสั่งที่จะสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากเทศกาลกินเจนั้นกุญแจสำคัญคือการรู้จักพลิกแพลงในการใช้วัตถุดิบ ซึ่งทำให้สามารถคงราคาอาหารเจไว้ได้มากที่สุด และจะเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการดึงดูดลูกค้า
คาดว่าในปี 2550 นี้คนไทยที่ตั้งใจจะกินเจมีมากขึ้น นอกจากเพื่อต้องการทำบุญทำทานงดเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์แล้ว ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือ ต้องการทำบุญถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสจะมีพระชนมายุครบ 80 พรรษา รวมทั้งยังได้กระแสสนับสนุนการที่ผู้บริโภคหันมาสนใจบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้บรรดาผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารหันมาขยายผลิตภัณฑ์อาหารเจหลากหลายชนิดตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารเจแช่เย็นแช่แข็ง อาหารเจกึ่งสำเร็จรูป และเบเกอรี่เจ ทำให้ผู้ที่ต้องการบริโภคอาหารเจมีทางเลือกมากขึ้น อย่างไรก็ตามผู้บริโภคยังเน้นนโยบายประหยัดเช่นเดียวกับในปีที่ผ่านมา เนื่องจากความจำเป็นทางเศรษฐกิจ ทำให้บรรดาผู้ที่จำหน่ายอาหารเจบางรายต้องปรับตัวโดยการใช้กลยุทธ์ไม่ปรับราคา โดยอาจจะลดปริมาณลงเล็กน้อยหรือปรับวัตถุดิบเพื่อเฉลี่ยต้นทุนไม่ให้เพิ่มขึ้นมากนักทำให้สามารถจำหน่ายในราคาเดิมได้ อย่างไรก็ตามผู้จำหน่ายอาหารเจบางรายก็ตัดสินใจไม่จำหน่ายอาหารเจในปีนี้ หรือบางรายก็ปรับราคาจำหน่ายโดยเน้นการทำความเข้าใจกับลูกค้าถึงปัญหาวัตถุดิบโดยเฉพาะผักที่แพงขึ้นอย่างมากในปีนี้ นอกจากนี้ผู้ประกอบการขายอาหารเจก็ปรับตัวด้วยการเริ่มจำหน่ายอาหารเจล่วงหน้าตั้งแต่ในช่วงวันที่ 8 ตุลาคม แม้ว่าเทศกาลรับประทานอาหารเจจะเริ่มในช่วงเย็นของวันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งถือว่าเป็นมื้อล้างท้องก่อนที่จะเข้าสู่การรับประทานอาหารเจกันจริงๆในตอนเช้าตรู่ของวันที่ 11 ตุลาคม ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าตั้งแต่ช่วงวันที่ 8 ตุลาคมจะเริ่มเห็นร้านอาหารเจที่มีธงสีเหลืองซึ่งถือเป็นสัญญลักษณ์ของอาหารเจมีให้เห็นอยู่ทั่วไป รวมทั้งตามร้านจำหน่ายวัตถุดิบเพื่อนำไปประกอบอาหารเจ และซุปเปอร์มาร์เก็ต ตลอดจนห้างสรรพสินค้าต่างๆ เนื่องจากผู้ที่ตั้งใจจะบริโภคอาหารเจจะเริ่มซื้อของเตรียมไว้บริโภคตั้งแต่ช่วงวันที่ 6-7 ตุลาคม
บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าในปี 2550 มูลค่าตลาดอาหารเจทั่วประเทศประมาณ 6,000 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาแล้วเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 10.0 โดยเป็นมูลค่าตลาดอาหารเจในกรุงเทพฯประมาณ 2,000 ล้านบาท สาเหตุที่คนไทยตั้งใจจะรับประทานอาหารเจมากขึ้น เนื่องจากถือว่าการทำบุญล้างกายและล้างใจ รวมทั้งตั้งใจกินเจเพื่อบำเพ็ญกุศลถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมีพระชนมายุครบ 80 พรรษาในวันที่ 5 ธันวาคม 2550 นอกจากนี้ประเด็นสำคัญคือ ความเชื่อว่าการกินเจช่วยทำให้สุขภาพอนามัยสมบูรณ์แข็งแรง รวมทั้งการรับประทานอาหารเจในปัจจุบันไม่ได้ยากลำบากเหมือนกับเมื่อก่อน เนื่องจากมีธุรกิจหลายแขนงผลิตสินค้าขึ้นมาสนองความต้องการของคนที่รับประทานอาหารเจ ซึ่งสามารถเลือกรับประทานได้ตลอดทั้งปี และยอดจำหน่ายของสินค้าเหล่านี้เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลกินเจ นอกจากนี้ยังมีกระแสการรักษาสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารอย่างถูกต้อง เช่น มังสวิรัติ แม็คโครไบโอติก ชีวจิต เป็นต้น

ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


เศรษฐกิจไทย