Display mode (Doesn't show in master page preview)

16 เมษายน 2568

Econ Digest

ไตรมาส 1/2568 เศรษฐกิจจีนเติบโตดีกว่าคาดการณ์ที่ 5.4% การปรับขึ้นภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ จะกดดันเศรษฐกิจจีนในไตรมาสที่เหลือของปี 2568

คะแนนเฉลี่ย
  • เศรษฐกิจจีนไตรมาส 1/2568 เติบโต 5.4%YoY (รูปที่ 1) ดีกว่าคาดการณ์ที่ 5.2%YoY1/ โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ

1.    การส่งออกขยายตัวแข็งแกร่ง (คิดเป็นประมาณ 20% ของ GDP) โดยการส่งออกไปประเทศคู่ค้าหลัก เช่น สหรัฐฯ และ ASEAN เร่งตัวขึ้นอย่างมากในเดือนมี.ค.68 จากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้ารอบใหม่ (รูปที่ 2)

2.    การใช้จ่ายในประเทศ (คิดเป็นประมาณ 50% ของ GDP) ขยายตัวดีจากโครงการ Trade-in (สินค้าเก่าและสินค้าใหม่) ที่มีการขยายวงเงินเพิ่มขึ้นจากปีก่อน

3.    ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเร่งตัวขึ้นตามทิศทางการส่งออก โดยผลผลิตที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการผลิตใหม่ เช่น รถยนต์ไฟฟ้า และหุ่นยนต์อุตสาหกรรมเติบโตแข็งแกร่ง (รูปที่ 3)

  • ทั้งนี้ การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังหดตัวเป็นปัจจัยกดดันต่อเศรษฐกิจจีน (รูปที่ 4)
  • แม้เศรษฐกิจจีนไตรมาสแรกจะเติบโตดีกว่าคาดการณ์ แต่ในไตรมาสที่เหลือของปี 2568 ยังเผชิญความไม่แน่นอนสูงจาก 4 ปัจจัยสำคัญ ดังนี้  

1.    การส่งออกจีนจะเริ่มมีทิศทางชะลอลง หลังสหรัฐฯ ปรับขึ้นภาษีนำเข้าจีนล่าสุดที่  145% ซึ่งในอัตราภาษีนี้คาดส่งออกจีนไปสหรัฐฯ ปรับลดลงกว่าครึ่งหนึ่งของการส่งออกเดิม โดยการยกเว้นภาษี Reciprocal tariff สำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ คิดเป็น 22% สินค้าที่สหรัฐฯ นำเข้าจากจีน เช่น smartphone และคอมพิวเตอร์ จะช่วยลดทอนผลกระทบได้บางส่วน (ยังคงถูกเก็บเพิ่มขึ้นที่ 20% จากข้อหาที่จีนส่งเฟนทานิลไปสหรัฐฯ) ขณะที่การยกเว้นภาษี Reciprocal tariffs 90 วันให้กับประเทศอื่น ๆ นอกจากจีนอาจส่งผลให้การส่งออกจีนไปประเทศใน ASEAN ยังเพิ่มขึ้น แต่ไม่เพียงพอชดเชยผลกระทบจากการส่งออกไปสหรัฐฯ (ส่งออกจีนไปสหรัฐฯ คิดเป็น 2.8% ของเศรษฐกิจจีน)

2.    ความไม่แน่นอนจากการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ ที่อาจส่งผลให้มีประเทศที่ปรับขึ้นภาษีจีนเพิ่มขึ้นนอกจากสหรัฐฯ ซึ่งจะยิ่งเป็นอุปสรรคต่อการหาตลาดใหม่ของจีน  

3.    ความเสี่ยงเงินฝืดสูงขึ้น อุปสงค์ในประเทศยังมีแนวโน้มชะลอตัวจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่ระดับราคายังได้รับปัจจัยกดดันจากปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินที่มีมากขึ้นจากความเสี่ยงสงครามการค้ารอบใหม่ นอกจากนี้ผลผลิตอุตสาหกรรมในประเทศมีทิศทางชะลอลงจากการชะลอตัวของการส่งออก ซึ่งจะทำให้การจ้างงาน และรายได้ในประเทศมีทิศทางชะลอลงซ้ำเติมปัญหาเงินฝืดที่จีนเผชิญอยู่

4.    ภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนจะยังเป็นปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นในประเทศ

  • ทางการจีนมีแนวโน้มทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเพิ่มเติม ทั้งในส่วนของภาคการคลังที่จะสนับสนุนการใช้จ่ายในประเทศ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและอุตสาหกรรมการผลิตใหม่ รวมถึงเงินอุดหนุนในกลุ่มผู้ส่งออก อีกทั้งการผ่อนคลายในภาคการเงิน เช่น การปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย แต่คาดว่ายังไม่สามารถชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสงครามการค้ารอบใหม่ได้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าเศรษฐกิจจีนปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตชะลอลงจากปีก่อนอยู่ที่ 3.6%

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest