Display mode (Doesn't show in master page preview)

13 ธันวาคม 2567

Econ Digest

ปี 2568 จีนเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจหนุนการบริโภคและการลงทุนในประเทศ ท่ามกลางสงครามการค้ารอบใหม่

คะแนนเฉลี่ย

        การประชุม Central Economic Work Conference (CEWC) ของผู้บริหารระดับสูงในรัฐบาลจีนเพื่อวางแผนงานด้านเศรษฐกิจของจีนในปี 2568 ที่จัดขึ้นวันที่ 11-12 ธ.ค. 67 ระบุว่า ในปี 2568 ทางการจีนจะให้ความสำคัญกับการบริโภคและการลงทุนในประเทศ ซึ่งจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านนโยบายการเงินและการคลัง มีรายละเอียดที่สำคัญ ดังนี้
1.    ธนาคารกลางจีนจะยังดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย โดยจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และสัดส่วนสำรองการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (Reserve Requirement Ratio) ลงในเวลาที่เหมาะสม
2.    ด้านนโยบายการคลังจะเพิ่มเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณทางการคลังต่อ GDP จากเดิมที่รักษาระดับไว้ที่ประมาณ 3% ต่อ GDP
3.    ทางการจีนจะเพิ่มการออกพันธบัตรระยะยาว และพันธบัตรรัฐบาลท้องถิ่น
4.    “แคมเปญพิเศษ” จะมีขึ้นสำหรับกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ แต่ยังไม่ระบุถึงรายละเอียดเพิ่มเติม

  • ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่ารายละเอียดดังกล่าวถือเป็นการเน้นย้ำว่าในปี 2568 จีนพร้อมใช้นโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุก และมีทิศทางการผ่อนคลายนโยบายเงินแบบขยายตัวระดับกลาง (Moderately loose monetary policy stance)  สอดคล้องกับการประชุมคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (Politburo) เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 67 เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจจีนในปี 2568 ที่จะเผชิญความเสี่ยงจากสงครามการค้ารอบใหม่จากสหรัฐฯ  ขณะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์จะเป็นปัจจัยกดดันเศรษฐกิจ และอุปสงค์ในประเทศยังมีแนวโน้มอ่อนแอต่อเนื่องจากปี 2567   
  • ทั้งนี้ เป้าหมายการเติบโตเศรษฐกิจ ตัวเลขการขาดดุลงบประมาณต่อ GDP และเป้าหมายการออกพันธบัตรรัฐบาล จะมีการประกาศตัวเลขอย่างเป็นทางการในการประชุมสองสภาของจีนในเดือนมี.ค. 2568

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest