Display mode (Doesn't show in master page preview)

4 ธันวาคม 2568

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 1-4 ธ.ค. 68)

คะแนนเฉลี่ย
สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท 

• เงินบาทพลิกแข็งค่าหลุดแนว 32.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในระหว่างสัปดาห์ ท่ามกลางการคาดการณ์เรื่องเฟดลดดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. นี้ ทั้งนี้เงินบาทแข็งค่าผ่านแนวสำคัญ 32.20 และ 32.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในระหว่างสัปดาห์ไปแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 2 เดือนที่ 31.855 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับการแข็งค่าของสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย นำโดย เงินเยนซึ่งมีแรงหนุนจากการคาดการณ์ถึงโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยของ BOJ ซึ่งสวนทางกับแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟด นอกจากนี้เงินดอลลาร์ฯ ยังมีแรงกดดันเพิ่มเติมจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งยิ่งตอกย้ำมุมมองของตลาดที่ให้น้ำหนักความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดดอกเบี้ยในการประชุม FOMC ในวันที่ 9-10 ธ.ค. นี้ อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงบวกลงบางส่วน และอ่อนค่ากลับมาเล็กน้อยก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวของตลาดในประเทศ ประกอบกับตลาดกลับมารอติดตามการประชุมเฟดสัปดาห์หน้า และรายละเอียดหลังมีรายงานข่าวระบุว่า ธปท. และกระทรวงการคลังกำลังอยู่ระหว่างการหารือร่วมกันในการแก้ประกาศเพื่อให้ร้านทองรายงานธุรกรรม 
• สัปดาห์ระหว่างวันที่ 8-12 ธ.ค. 2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 31.80-32.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมและ Dot Plot ของเฟด ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ สถานการณ์ค่าเงินเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก ตัวเลขเงินเฟ้อคาดการณ์ในมุมมองผู้บริโภคเดือนพ.ย. และตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงานเดือนก.ย. ของสหรัฐฯ ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน อาทิ ตัวเลขการส่งออก ดัชนีราคาผู้บริโภคและดัชนีราคาผู้ผลิต

สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย 

• ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นท่ามกลางแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและบัญชีบล. ทั้งนี้ SET Index ดีดตัวขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ตามแรงซื้อของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ หลังสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้เริ่มคลี่คลายและรัฐบาลเร่งออกมาตรการช่วยเหลือ ส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นบิ๊กแคป นำโดย กลุ่มแบงก์ เทคโนโลยีและพลังงานซึ่งได้รับอานิสงส์เพิ่มเติมจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นหลังโอเปกพลัสมีมติไม่เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในไตรมาส 1/2569 นอกจากนี้ ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของทั้งสหรัฐฯ และไทยในรอบการประชุมเดือนธ.ค. นี้ อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบในช่วงที่เหลือของสัปดาห์ เนื่องจากไร้ปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นตลาด ขณะที่นักลงทุนกลับมารอติดตามผลการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า ประกอบกับช่วงปลายสัปดาห์จะเข้าสู่ช่วงหยุดยาวของตลาดในประเทศ 
• สัปดาห์ที่ 8-12 ธ.ค. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,250 และ 1,230 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,285 และ 1,305 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (9-10 ธ.ค.) ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนต.ค. ของสหรัฐฯ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2568 และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค. ของญี่ปุ่น ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจเดือนพ.ย. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต และตัวเลขส่งออก

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น