ดัชนี Environmental Performance Index (EPI) ของไทยปี 2563 อยู่ที่ลำดับ 78 ของโลก ปรับตัวดีขึ้นจากลำดับ 121 ในปี 2561 ซึ่งประเทศไทยทำได้ดีกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกและปรับตัวดีขึ้นกว่าประเทศในระดับใกล้เคียง ทั้งจีนและฟิลิปปินส์ อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ปัจจุบันทั้งปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 การจัดการน้ำและภัยแล้ง และการจัดการขยะและของเสีย บ่งชี้ว่าไทยยังต้องยกระดับการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยภาคธุรกิจที่มีบทบาทหลักต่อพฤติกรรมผู้บริโภคจะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจเพื่อความยั่งยืนได้
ปัจจุบันภาคธุรกิจกำลังเผชิญความยากลำบากจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ธุรกิจต้องให้ความสำคัญกับการอยู่รอดและจัดการความเสี่ยงเฉพาะหน้าเป็นลำดับแรก แต่สำหรับธุรกิจที่มีศักยภาพในการปรับตัว การนำแนวทางการจัดการเพื่อความยั่งยืน ESG (Environmental, Social, Governance) มาใช้ จะช่วยส่งเสริมประสิทธิภาพและภาพลักษณ์ขององค์กร สร้างความได้เปรียบของธุรกิจในระยะยาว ภายใต้ปัจจัยสนับสนุนธุรกิจเพื่ออนาคต 2 ด้านหลักคือ 1) โอกาสทางการตลาดจากพฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ ที่เต็มใจจะจ่ายเพิ่มขึ้นเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และ 2) ปัจจัยกดดันจากมาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี ระหว่างประเทศเพื่อยกระดับคุณภาพสินค้าและการคุ้มครองผู้บริโภค
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ธุรกิจในกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหาร พลังงานและการขนส่ง สารเคมี และพลาสติก เป็นภาคธุรกิจต้องเร่งปรับตัวเพื่อความยั่งยืน แม้การปรับตัวนี้จะทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ก็เป็นผลดีในระยะยาว โดยสะท้อนผ่านต้นทุนทางการเงินที่น่าจะต่ำกว่าโดยเปรียบเทียบและความได้เปรียบด้านการแข่งขันทางธุรกิจ ทั้งนี้ การปรับตัวของธุรกิจโดยใช้หลักการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืนควบคู่ไปกับนโยบายภาครัฐ จะส่งผลบวกต่อเนื่องไปสู่การแก้ไขปัญหาระดับประเทศและส่งผลดีต่อการประเมินดัชนี EPI ของไทยซึ่งจะสะท้อนถึงความเชื่อมั่นด้านการค้าการลงทุนต่อไป
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น