Display mode (Doesn't show in master page preview)

10 ธันวาคม 2565

Econ Digest

ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทย (สัปดาห์ที่ 5-9 ธ.ค. 65)

คะแนนเฉลี่ย

สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท

• เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน โดยพลิกจากระดับที่แข็งค่าสุดในรอบเกือบ 6 เดือนมาทยอยอ่อนค่าลงในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ท่ามกลางแรงหนุนของเงินดอลลาร์ฯ จากแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด อย่างไรก็ดีเงินบาทพลิกแข็งค่าอีกครั้งตามแรงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังมีปัจจัยลบจากข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่ออกมาอ่อนแอ ซึ่งยิ่งหนุนความเป็นไปได้ที่เฟดจะเริ่มชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุม FOMC วันที่ 13-14 ธ.ค. นี้


• สัปดาห์ระหว่างวันที่ 12-16 ธ.ค. 2565 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 34.50-35.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลการประชุมนโยบายการเงิน และ Dot Plots ของเฟด ผลการประชุม ECB และ BOE ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ท่าทีต่อมาตรการโควิดของทางการจีน ดัชนี CPI เดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ รวมถึงดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ ยูโรโซน และอังกฤษ

สรุปความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย

• SET Index ปรับตัวลงตั้งแต่ต้นสัปดาห์ ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยมีปัจจัยกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจโลก การเลื่อนการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงแรงขายลดเสี่ยงของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติและสถาบันในประเทศก่อนวันหยุดยาวและระหว่างรอติดตามผลการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ดี หุ้นไทยลดช่วงลบได้บางส่วนช่วงปลายสัปดาห์ ส่วนหุ้นกลุ่มที่กดดัน SET Index ในสัปดาห์นี้ หลักๆ ได้แก่ เทคโนโลยี แบงก์ และพลังงาน

 
• สัปดาห์ที่ 12-16 ธ.ค. 2565 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,610 และ 1,600 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,640 และ 1,650 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุม FOMC, ECB และ BOE มาตรการของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือนธ.ค. ของสหรัฐฯ ยูโรโซนและญี่ปุ่น รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนพ.ย. ของสหรัฐฯ 

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น