Display mode (Doesn't show in master page preview)

31 กรกฎาคม 2568

Econ Digest

เทรนด์การออกกำลังกาย ดันรายได้ธุรกิจฟิตเนสโต 18%

คะแนนเฉลี่ย
  • คนไทยออกกำลังกายสม่ำเสมอเพิ่มขึ้นเป็น 44.4% ในปี 2024 หนุนให้รายได้ธุรกิจฟิตเนสปี 2025 โต 18% คาดทะลุ 12,000 ล้านบาท
  • รายได้ฟิตเนสกว่า 80% ยังกระจุกตัวในกรุงเทพฯ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีประชากรกลุ่มมีกำลังซื้อสูง 
  • ฟิตเนสแนวเฉพาะทาง โดยเฉพาะโยคะและพิลาทิส กำลังนำกระแสธุรกิจฟิตเนสในกรุงเทพฯ 
พฤติกรรมผู้บริโภคไทยเริ่มออกกำลังกายสม่ำเสมอมากขึ้น
        ปัจจุบัน มากกว่า 76% ของสาเหตุการเสียชีวิตทั้งหมดในประเทศมาจากโรค NCDs   จึงส่งผลให้การออกกำลังกายกลายเป็นที่ได้รับความสนใจมากขึ้น
        จากผลสำรวจของกรมพลศึกษา พบว่า คนไทยมีแนวโน้มออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ โดยสัดส่วนของกลุ่มสำรวจที่อายุมากกว่า 15 ปี ที่ออกกำลังกายมากกว่า 3 วัน/สัปดาห์ และต่อเนื่องอย่างน้อย 30 นาที เพิ่มขึ้นจาก 40.4% ในปี 2022 เป็น 44.4% ในปี 2024 (รูปที่ 1) 
        ทั้งนี้ ผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค ในปี 2025 ระบุว่า 60.2% ของผู้ที่ออกกำลังกายเลือกใช้บริการฟิตเนส ขณะที่มีเพียง 39.8% ที่ออกกำลังกายในสถานที่อื่นๆ  (รูปที่ 2) โดยปัจจุบันบทบาทของฟิตเนสนั้นไม่ใช่แค่สถานที่ออกกำลังกาย แต่ยังเป็นคอมมูนิตี้ที่รวมทั้งพื้นที่สำหรับการดูแลสุขภาพ พบปะผู้คน เพิ่มเติมด้วย 


รายได้ธุรกิจฟิตเนสโตต่อเนื่อง ตามกระแสออกกำลังกายที่กลายเป็นไลฟ์สไตล์
        ปี 2025 คาดรายได้ธุรกิจฟิตเนสโต 18% ทะลุ 12,000 ล้านบาท (รูปที่ 3) จากจำนวนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่ใน 5 เดือนแรกของปีนี้ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 31 บริษัท  
        รายได้ของธุรกิจฟิตเนสในประเทศไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจนตั้งแต่ปี 2023 หลังการระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่กระตุ้นให้คนหันมาใส่ใจการออกกำลังกายมากขึ้นจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ อย่างไรก็ตาม รายได้ของธุรกิจฟิตเนสยังคงกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 80% ของรายได้รวมทั้งประเทศ เนื่องจากการใช้บริการฟิตเนสมักมีค่าใช้จ่าย และกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ที่มีประชากรกลุ่มมีกำลังซื้อสูง ทำให้รายได้ส่วนใหญ่ยังคงมาจากตลาดในเมืองเป็นหลัก

แนวโน้มฟิตเนสกรุงเทพฯ พิลาทิส–โยคะ นำกระแส
        ในช่วงเดือนมกราคม - พฤษภาคม 2025 มีการจัดตั้งนิติบุคคลใหม่ในกรุงเทพฯ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจฟิตเนสจำนวน 41 บริษัท โดยกว่า 56% มีการให้บริการโยคะหรือพิลาทิส (รูปที่ 4) 
        กระแสการออกกำลังกาย ที่เน้นการเสริมสร้างความแข็งแรง ปรับบุคลิกภาพ และฟื้นฟูร่างกาย เช่น พิลาทิสและโยคะ กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับข้อมูลจากการกีฬาแห่งประเทศไทยในปี 2021 ซึ่งเก็บจากผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย 48.59 ล้านคน พบว่า ‘พิลาทิส’ เป็นกิจกรรมที่ผู้คนคาดหวังจะออกกำลังกายมากเป็นอันดับ 3 โดยมีสัดส่วนถึง 29.3% รองจาก ฮูลาฮูปและเวทเทรนนิ่ง สะท้อนแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของตลาดจากฟิตเนสแบบดั้งเดิม สู่รูปแบบการออกกำลังกายแบบเฉพาะทางที่อยู่ในกระแสมากขึ้น 

ความเสี่ยงของธุรกิจฟิตเนส 
  • การแข่งขันที่รุนแรงการเปลี่ยนแปลงเทรนด์อย่างรวดเร็ว ฟิตเนสขนาดเล็กแบบเฉพาะทาง (เช่น พิลาทิส สตูดิโอและ) กำลังเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการต้องพร้อมปรับตัวกับ   เทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคโซเชียลมีเดีย
  • เทรนด์แอปพลิเคชันออกกำลังกาย เทรนเนอร์ออนไลน์ และคอนเทนต์ฟรีบน YouTube / TikTok กำลังเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค หากฟิตเนสไม่มีเทคโนโลยีหรือบริการเสริมที่ดึงดูดเพียงพอ อาจถูกธุรกิจออกกำลังบนโซเชียลมีเดียแย่งส่วนแบ่งทางตลาดมากขึ้น 
  • ต้นทุนคงที่สูงและการพึ่งพาลูกค้าประจำ ค่าเช่าสถานที่ ค่าจ้างเทรนเนอร์ และค่าอุปกรณ์เป็นต้นทุนคงที่หลัก ทำให้ธุรกิจต้องพยายามรักษาจำนวนสมาชิก และเพิ่มสมาชิกอย่างต่อเนื่องเพื่อความอยู่รอด 

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest