Display mode (Doesn't show in master page preview)

3 ตุลาคม 2567

Econ Digest

รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา พาประเทศมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

คะแนนเฉลี่ย

รัฐบาลใหม่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา พาประเทศมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality)
        รัฐบาลใหม่แถลงนโยบายต่อรัฐสภาวันที่ 12 กันยายน 2567 ถึงความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้น และปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่กำลังส่งผลต่อภาคเศรษฐกิจต่างๆ ในประเทศไทย ขณะที่ยังคงสนับสนุนพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลเพื่อจัดหาพลังงานราคาถูก
        ในระยะสั้นรัฐบาลจะปรับปรุงกฎหมายเพื่อเปิดเสรีการทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโดยตรงระหว่างเอกชน (Direct PPA) และสำรวจแหล่งเชื้อเพลิงฟอสซิลใหม่ในพื้นที่ทับซ้อนไทย – กัมพูชาเพื่อจัดหาแหล่งพลังงานราคาถูกมาผลิตไฟฟ้า
        ระยะปานกลางและระยะยาว รัฐบาลจะดำเนินนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมใน 2 แนวทางด้วยกัน
1.    ส่งเสริมการปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อการบริโภคและรองรับปัญหาน้ำท่วม ภัยแล้ง
2.    ส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซเรียนกระจกเพื่อนำพาประเทศไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และสนับสนุนอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ได้แก่

  • ภาคพลังงาน ส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน กลไกตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรี
  • ภาคขนส่ง เปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมยานยนต์สันดาปไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า (HEV BEV และ Fuel-Cell EV)
  • ภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


        ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า รัฐบาลใหม่มีแนวโน้มสานต่อนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมจากรัฐบาลก่อน ซึ่งจะส่งผลดีต่อการมุ่งไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ โดยภาคเอกชนจะต้องติดตามร่างกฎหมายและมาตรการที่อยู่ระหว่างการพิจารณา เช่น

  • ร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด
  • ร่าง พ.ร.บ.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
  • ภาษีคาร์บอน

ที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชน

 


Click
 ชมคลิป รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา พาประเทศมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest