Display mode (Doesn't show in master page preview)

19 ธันวาคม 2565

Econ Digest

เม็ดพลาสติกรักษ์โลก … ยอดขายปี 2566 โตชะลอ ไทยอาจได้อานิสงส์ไม่เต็มที่จากกระแสลดโลกร้อน

คะแนนเฉลี่ย

    ​ เม็ดพลาสติก เป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกสำคัญของไทย ซึ่งในปี 2565 คาดว่ามูลค่าส่งออกจะขยายตัวราว 1.2% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาที่ปรับสูงขึ้นตามราคาวัตถุดิบฟอสซิล แม้อุปสงค์จะชะลอลง ขณะที่ในปี 2566 ด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนสูง ราคาที่อาจย่อลง ทำให้มูลค่าส่งออกเม็ดพลาสติกอาจหดตัวมากกว่า 2.5% นอกจากนี้ อุตสาหกรรมเม็ดพลาสติกไทยที่พึ่งพาการส่งออกเม็ดพลาสติกฟอสซิลถึงกว่า 96% ของปริมาณส่งออก จะยิ่งเผชิญแรงกดดันมากขึ้นจากกระแสลดโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบด้านสิ่งแวดล้อมโดยประเทศคู่ค้า ขณะที่การเปลี่ยนผ่านไปสู่เม็ดพลาสติกรักษ์โลก (รีไซเคิลและชีวภาพ) ของไทยยังช้ากว่าการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก รวมทั้งความท้าทายจากภาวะตึงตัวของอุปทานเม็ดพลาสติกรักษ์โลก ทำให้ผู้ประกอบการไทยอาจได้รับอานิสงส์ไม่เต็มที่จากการเติบโตของอุปสงค์พลาสติกรักษ์โลก นอกจากนี้ ในระยะกลางถึงยาว ผู้ประกอบการเม็ดพลาสติกรักษ์โลกไทยคงเผชิญความท้าทายจากการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นโดยเฉพาะจากจีนที่เร่งลงทุนผลิตเม็ดพลาสติกรักษ์โลกตามแรงสนับสนุนนโยบายของทางการจีน

    ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า ผู้ประกอบการเม็ดพลาสติกรักษ์โลกไทยโดยเฉพาะชนิดรีไซเคิลจะหันมาจับตลาดบรรจุภัณฑ์เกรดอาหารในไทยมากขึ้น โดยได้รับแรงหนุนจากการอนุญาตของภาครัฐให้ใช้พลาสติกรีไซเคิลเกรดอาหารในไทยได้ตั้งแต่ช่วงเดือนมิถุนายน 2565 จากก่อนหน้านี้ที่ผู้ผลิตมักส่งออกพลาสติกเกรดดังกล่าวไปต่างประเทศโดยเฉพาะสหภาพยุโรป โดยในปี 2566 ยอดขาย (ในประเทศและส่งออก) เม็ดพลาสติกรีไซเคิลไทยน่าจะเติบโต 1.90% ชะลอตัวลงเล็กน้อยจาก 1.94% ในปีก่อนหน้า โดยได้แรงหนุนจากตลาดในประเทศที่เร่งตัวขึ้น 2.3% สวนทางกับยอดส่งออกที่น่าจะหดตัว 1.6% ในขณะที่ยอดขายเม็ดพลาสติกชีวภาพไทยน่าจะเติบโต 1.8% ชะลอตัวลงจาก 3.5% ในปีก่อนหน้า โดยเป็นการชะลอตัวของทั้งตลาดในประเทศและส่งออกที่เติบโตเพียง 1.7% และ 1.8% ตามลำดับ



 


Click
 ชมคลิป ESG Biweekly Update เม็ดพลาสติกรักษ์โลก ยอดขายปี 2566...โตชะลอ ไทยอาจได้อานิสงส์ไม่เต็มที่จากกระแสลดโลกร้อน


Scan QR Code


QR Code

หมายเหตุ

รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น

Econ Digest