• การส่งออกไทยในเดือน ก.ย. 2024 ยังขยายตัวบวกที่ 1.1%YoY (รูปที่ 1) แต่ต่ำกว่า 3.0%YoY ที่ตลาดคาดการณ์ โดยการส่งออกคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบขยายตัว 25.5%YoY โดยขยายตัวได้ในทุกตลาดสำคัญ อาทิ สหรัฐฯ และจีน นอกจากนี้การส่งออกยางพาราขยายตัวได้ 47.4%YoY ซึ่งเป็นผลจากฐานที่ต่ำในเดือน ก.ย. 2023 และการส่งออกผลิตภัณฑ์ยางที่เพิ่มขึ้น 15.7%YoY จากความต้องการยางล้อและถุงมือยางที่เพิ่มขึ้น
• ปัจจัยกดดันการส่งออกในเดือน ก.ย. 2024 มาจากน้ำมันสำเร็จรูปที่ลดลง -95.3%YoY โดยเป็นผลจากปัจจัยฐานของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ที่อยู่ในระดับสูงในปีก่อนหน้า ขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกช่วงเดือน ก.ย. 2024 ถูกกดดันจากอุปสงค์ที่ลดลงเป็นสำคัญโดยเฉพาะในตลาดจีน นอกจากนี้ การส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบ หดตัว
-9.8%YoY ส่วนหนึ่งถูกฉุดรั้งจากการส่งออกไปยังตะวันออกกลาง ที่ลดลงท่ามกลางความขัดแย้งในภูมิภาคดังกล่าวที่ยังปะทุอยู่
• นอกจากนี้ การส่งออกไปยังจีนในเดือน ก.ย. 2024 หดตัว -7.8%YoY หลังขยายตัวไปในเดือนก่อนหน้า จากการส่งออกผลไม้ที่หดตัวลง -21.6%YoY เช่น ทุเรียนแช่แข็ง ลำไยสด จากสภาพอากาศที่แปรปรวน อย่างไรก็ตาม การส่งออกไปจีนแม้หักการส่งออกผลไม้ก็ยังติดลบ -4.7%YoY สะท้อนอุปสงค์ในตลาดจีนที่อ่อนแอ ตามเศรษฐกิจที่ขยายตัวชะลอลง ตลอดจนการปรับห่วงโซ่การผลิต จากปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์
• การส่งออกไทยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่ต่ำกว่าช่วง 9 เดือนก่อนหน้า เนื่องจาก
- ปัญหาเชิงโครงสร้างในประเทศที่ยังคงอยู่ ประกอบกับแรงกดดันจากแนวโน้มอุปสงค์โลกที่ชะลอตัวโดยเฉพาะในตลาดจีน โดยดัชนีภาคการผลิต (Manufacturing PMI) และดัชนีคำสั่งซื้อใหม่เพื่อการส่งออก (New export order) ของโลกอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน (รูปที่ 2) นอกจากนี้ การส่งออกเกาหลีใต้ 20 วันแรกของเดือน ต.ค. หดตัว -2.9%YoY ซึ่งถือเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2024 แม้การส่งออกเซมิคอนดักเตอร์ยังขยายตัวดี
- นโยบายกีดกันการค้ากับจีน โดยสงครามการค้าอาจรุนแรงขึ้นหากสงครามการค้ารอบใหม่เกิดขึ้นจากนโยบายของทรัมป์ฯ ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าการส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ในช่วงปลายปี 2024 อาจได้รับแรงหนุนบางส่วนจากการเร่งนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ก่อนที่มาตรการทางการค้าจะยกระดับขึ้นในปี 2025 แต่อัตราการขยายตัวการส่งออกไปสหรัฐฯ คงไม่เพิ่มขึ้นจากช่วง 9 เดือนแรกของปี 2024 ซึ่งอยู่ที่ 12.5%YoY มากนัก เนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เติบโตชะลอลงและสินค้าคงคลังที่อยู่ในระดับสูง
• ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการภาพรวมการส่งออกไทยในปี 2024 อยู่ที่ 2.5% โดยในไตรมาสที่ 4/2024 คาดว่าการส่งออกไทยจะขยายตัวชะลอลงตามอุปสงค์โลกที่ชะลอตัว นอกจากนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์อุทกภัยหากมีความยืดเยื้อหรือผลกระทบเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่ภาคกลางและใต้ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลผลิตและการส่งออกสินค้าเกษตรมากขึ้น อย่างไรก็ดี การส่งออกไทยมีโอกาสที่จะขยายตัวได้ดีกว่าคาด หากการส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
• นอกจากนี้ หากพิจารณาการนำเข้าสินค้าของไทยในเดือน ก.ย. 2024 พบว่า ขยายตัวสูงสวนทางการส่งออกที่ 9.9%YoY จากการนำเข้าทองคำที่ขยายตัวถึง 910.8%YoY ประกอบกับการย้ายฐานการผลิตจากจีนมาไทย ส่งผลให้มีการนำเข้าเครื่องจักรและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากจีนขยายตัวต่อเนื่อง ได้แก่ แผงวงจรไฟฟ้า อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ รวมถึงการนำเข้าสินค้าอุปโภคและบริโภคจากจีนก็สูงขึ้นเช่นกัน อาทิ ของตกแต่งบ้านและเครื่องใช้เบ็ดเตล็ด ส่งผลให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าภาพรวมดุลการค้าไทย (ตามฐานศุลกากร) ในปี 2024 จะยังติดลบต่อเนื่องเป็นปีที่ 3
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น