การส่งออกสินค้าไทยในปี 2562 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 246,244.5 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัวร้อยละ 2.65 เมื่อเทียบกับปี 2561 ในขณะที่การนำเข้าสินค้าไทยในปี 2562 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 236,639.9 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัวร้อยละ 4.66 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ทำให้มูลค่าการค้าระหว่างประเทศของไทยเกินดุล 9,604.6 ล้านดอลลาร์ฯ นับเป็นการเกินดุลการค้าติดต่อกันเป็นปีที่ 5 ของไทย
- มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในเดือนธ.ค. 2562 อยู่ที่ 19,154 ล้านดอลลาร์ฯ หดตัวร้อยละ 1.3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้จะหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 แต่ก็เป็นในอัตราที่น้อยลงเมื่อเทียบกับเดือนพ.ย. 2562 โดยรายสินค้าส่งออกสำคัญที่หดตัวสูงในเดือนธ.ค. 2562 ได้แก่ ข้าว ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ รวมไปถึงสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมันอย่างเคมีภัณฑ์ และเม็ดพลาสติก
- เป็นที่น่าสังเกตว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยไปยังตลาดจีนและสหรัฐฯ กลับมาเติบโตอย่างก้าวกระโดดในเดือนธ.ค. 2562 ที่ร้อยละ 7.3 YoY และร้อยละ 15.6 YoY ตามลำดับ ซึ่งน่าจะเป็นผลของปัจจัยชั่วคราว โดยการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐฯ ขยายตัวดีในเดือนสุดท้ายของปี 2562 ส่วนหนึ่งมาจากฐานการส่งออกเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบที่ต่ำในปีก่อนจากอุปสงค์อิเล็กทรอนิกส์โลกที่ชะลอตัวในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีไปสู่ 5G ในส่วนของการส่งออกสินค้าไทยไปจีนในเดือนธ.ค. 2562 นั้น ส่วนหนึ่งมีการเร่งนำเข้าสินค้าบางรายการก่อนช่วงเทศกาลตรุษจีนในเดือนม.ค. 2563 นอกจากนี้ การส่งออกผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้งไปจีน ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 110.01 YoY ซึ่งมาจากการนำเข้าลำไยและทุเรียน (ทั้งสดและแช่แข็ง) ที่เพิ่มขึ้นของจีนเป็นสำคัญ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงมุมมองประมาณการมูลค่าส่งออกสินค้าไทยในปี 2563 ว่าจะยังหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ที่ร้อยละ -1.0 YoY โดยยังให้น้ำหนักกับประเด็นเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและแนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาทเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ของประเทศคู่แข่งทางการค้า ในขณะที่ประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนแม้จะลดระดับความตึงเครียดลงบ้าง หลังทั้งสองประเทศบรรลุความตกลงทางการค้าระยะแรกร่วมกัน แต่ก็คงไม่ได้เปลี่ยนภาพการค้าโลกในปี 2563 อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องด้วยเงื่อนไขความตกลงทางการค้าในเฟสแรกเป็นการลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพียงบางส่วนเท่านั้น ซึ่งทำให้สินค้าจีนส่วนใหญ่ยังเผชิญอัตราภาษีในปี 2563 ไม่แตกต่างไปจากปีก่อนหน้ามากนัก
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น