- ส่งออกไทยในเดือนพ.ย. 2563 ส่งสัญญาณดีขึ้น ท่ามกลางการระบาดหนักในสหรัฐฯ และยุโรป โดยหดตัวลดลงอยู่ที่ร้อยละ 3.65 YoY จากเดือนต.ค. 2563 ที่หดตัวร้อยละ 6.71 YoY นอกจากนี้เมื่อหักสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และอาวุธฯ การส่งออกมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยหดตัวเพียงร้อยละ 2.09 YoY โดยการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมในเดือนพ.ย. หดตัวลดลงอยู่ที่ร้อยละ 2.9 YoY โดยสินค้าประเภทรถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบพลิกกลับมาขยายตัวเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 9 เดือนอยู่ที่ร้อยละ 10.3 YoY ขณะที่การส่งออกสินค้าเกษตรในเดือนพ.ย. หดตัวลดลงเช่นกันอยู่ที่ร้อยละ 2.4 YoY หลังจากหดตัว 8.8 YoY ในเดือนต.ค. โดยได้รับปัจจัยหนุนหลักจากการสินค้าเกษตรหลายตัวที่สามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้
- ในเดือนพ.ย. สถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกที่สองของโควิด-19 เริ่มเกิดขึ้นในหลายประเทศ ส่งผลให้บางประเทศเริ่มกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ โดยเฉพาะในประเทศแทบยุโรปจึงส่งผลให้การส่งออกไปในสหภาพยุโรปหดตัวที่ร้อยละ 8.5 YoY
- สำหรับทิศทางการส่งออกของไทยในปีหน้ายังเผชิญความไม่แน่นอนอีกหลายปัจจัย ทั้งความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และค่าระวางเรือที่สูงขึ้น รวมถึงแนวโน้มการแข็งค่าของเงินบาท ท่ามกลางปัจจัยกดดันที่กล่าวมาข้างต้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยจึงประเมินทิศทางการส่งออกไทยในปี 2564 ว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 3.0
ขอบคุณภาพจาก Shutterstock.com
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น