ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 สถานการณ์สินค้าเกษตรในภาพรวมจะยังประคองตัวไปได้ในกรอบจำกัด แม้จะต้องเผชิญกับปัจจัยฉุดรั้งทั้งภาวะภัยแล้งในฤดูที่รุนแรง (ม.ค.-เม.ย.) จนสร้างความเสียหายต่อผลผลิตข้าว มันสำปะหลัง และอ้อยเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ภาพรวมผลผลิตลดลงร้อยละ 2.9 (YoY) รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทิ่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่ในภาพรวมจะยังคงเห็นภาพของราคาสินค้าเกษตรที่ขยายตัวได้ราวร้อยละ 3.8 (YoY) และรายได้เกษตรกรที่ขยายตัวได้ในกรอบจำกัดราวร้อยละ 1.4 (YoY)
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 สถานการณ์สินค้าเกษตรอาจให้ภาพที่แย่ลงเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปี โดยในแง่ของราคาสินค้าเกษตรจะได้รับแรงกดดันเป็น Double Shock ทั้งในฝั่งของอุปทาน ที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยต่อการผลิตมากขึ้น และในฝั่งของอุปสงค์ที่ยังต้องเผชิญกับผลกระทบจากโควิด-19 ที่จะฉุดรั้งความต้องการสินค้าเกษตรจากไทย ทำให้คาดว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ราคาสินค้าเกษตรอาจหดตัวราวร้อยละ 4.5 (YoY) ผลผลิตอาจเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 (YoY) ส่งผลต่อรายได้เกษตรกรให้ต้องเผชิญความยากลำบากมากขึ้น โดยอาจหดตัวที่ร้อยละ 0.7 (YoY)
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น