นัยสำคัญของ FTA สหภาพยุโรป (EU) – ญี่ปุ่นต่อ EU นั้นถือเป็นการเปิดเสรีสินค้าเกษตรของ EU ในตลาดญี่ปุ่นมากขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมา ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่มีมาตรการปกป้องภาคเกษตรมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ทั้งนี้ การเปิดเสรีดังกล่าวอาจส่งผลต่อการเบี่ยงเบนการส่งออกสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปของไทยในญี่ปุ่น ซึ่งสินค้าดังกล่าวนับเป็นสินค้าที่ไทยมีศักยภาพในการแข่งขันค่อนข้างมากในเวทีโลกและในตลาดญี่ปุ่น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ผลกระทบต่อการเบี่ยงเบนทางการค้าสินค้าเกษตรมีค่อนข้างจำกัดเพียงราว 64 ล้านดอลลาร์ฯ (หรือราว 0.3% ของการนำเข้าของญี่ปุ่นจากไทย) โดยมาจากความเป็นไปได้ที่ญี่ปุ่นจะหันไปนำเข้าจาก EU แทนไทยคิดเป็นมูลค่าราว 9.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อาทิ อาหารสัตว์เลี้ยงประเภทแมวและสุนัข หรือการที่ไทยอาจจะเจาะตลาดญี่ปุ่นได้ยากขึ้นคิดเป็นมูลค่าราว 54.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อาทิ เนื้อสุกรแปรรูปที่ไทยพยายามเจรจาต่อรองเพิ่มโควต้าการนำเข้าจากญี่ปุ่นมาโดยตลอด
ผลกระทบต่อภาคเกษตรของไทยที่จำกัดข้างต้นนั้น สืบเนื่องจากสินค้าส่งออกหลักส่วนใหญ่ของไทยมีถิ่นกำเนิดเฉพาะและไทยมีศักยภาพในการแปรรูปให้ตรงกับรสนิยมชาวญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี (Niche market) อาทิ ผักและผลไม้ที่บางส่วนจัดเป็นสินค้าพรีเมียมในญี่ปุ่นอย่าง มังคุด มะพร้าวน้ำหอม หน่อไม้ฝรั่ง หรือแม้กระทั่งสินค้าประเภทอาหารกึ่งสำเร็จรูปและอาหารพร้อมรับประทาน อย่างทูน่ากระป๋อง ข้าวโพดหวานกระป๋อง และเครื่องแกงบรรจุกระป๋อง อีกทั้งประเภทสินค้าที่ไทยส่งออกค่อนข้างแตกต่างกับ EU ในรายละเอียด
อย่างไรก็ดี สินค้าบางประเภทของไทยในตลาดญี่ปุ่นเริ่มมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ลดลง ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยควรปรับกลยุทธ์การส่งออก โดยเน้นการส่งออกสินค้าที่ตอบโจทย์กระแสการบริโภคของชาวญี่ปุ่นมากขึ้น อาทิ เกษตรอินทรีย์และผักปลอดสารพิษ อาหารเพื่อสุขภาพ รวมทั้ง อาหารไทยบรรจุกระป๋องหรืออาหารไทยพร้อมรับประทานที่หลากหลายมากขึ้น อาทิ ผัดไทยหรือผัดกะเพราพร้อมทาน นอกจากนี้ ไทยควรเร่งเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของไทย ผ่านการให้ความสำคัญต่อการเจรจาลดข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคในการเข้าถึงตลาดสินค้าเกษตรของญี่ปุ่น
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น