Display mode (Doesn't show in master page preview)

21 กันยายน 2561

เศรษฐกิจต่างประเทศ

ประชุมเฟดรอบ 25-26 ก.ย. 61 : คาดเฟด ‘ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25%’...ขณะที่ต้องจับตาผลกระทบจากข้อพิพาททางการค้าที่ยกระดับขึ้น (มองเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3760)

คะแนนเฉลี่ย

​​         ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25%จากระดับ 1.75-2.00% เป็น 2.00-2.25% ในวันที่ 25-26 กันยายน 2561 ตลอดจนประกาศเพิ่มระดับการลดขนาดงบดุลไปที่ระดับสูงสุดที่ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ/เดือน ทั้งนี้ การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงมีพัฒนาการที่แข็งแกร่ง รวมทั้ง ทิศทางของเงินเฟ้อที่เคลื่อนไหวสอดคล้องกับเป้าหมายเงินเฟ้อของเฟด คงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อเนื่อง ทั้งนี้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด รวมทั้ง การลดขนาดงบดุลในระดับที่เร่งขึ้น คงเป็นปัจจัยท้าทายต่อประเทศในตลาดเกิดใหม่ ที่อาจจะเผชิญกับความผันผวนของกระแสเงินทุนมากขึ้น

             ​ประเด็นเรื่องสงครามการค้าที่ยกระดับรุนแรงขึ้น อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ไม่น่าจะปรับเปลี่ยนมุมมองต่อการประเมินภาพรวมการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ของเฟดในปีนี้ โดยมองว่ายังมีโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งในปีนี้ ทั้งนี้ สถานการณ์ข้อพาพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงปานปลายออกไป โดยล่าสุดสหรัฐ ประกาศที่จะเริ่มเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนมูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ฯ โดยมีอัตราภาษีที่ 10% โดยมีผลในวันที่ 24 กันยายน 2561 อย่างไรก็ดี ผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในปีนี้คงน่าจะจำกัด เนื่องจากการเก็บภาษีในครั้งนี้ได้มีการยกเว้นสินค้าที่กระทบกับผู้บริโภคสหรัฐฯ ออกบางส่วน ขณะที่โอกาสในการเจรจาประนีประนอมเพื่อลดทอนผลกระทบระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงมีอยู่ ซึ่งภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว เฟดน่าจะยังคงมุมมองที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 4 ครั้งในปีนี้ มองไปข้างหน้า การขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตาต่อเนื่อง เนื่องจากประเด็นดังกล่าวอาจจะมีผลต่อเชื่อมโยงไปที่ระดับความเข้มข้นของสถานการณ์ข้อพิพาททางการค้าสหรัฐฯ ในระยะต่อไป โดยหากการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ ยังคงแย่ลง อาจจะเพิ่มความเสี่ยงที่สหรัฐฯ อาจจะพิจารณาออกมาตรการเพิ่มเติม อันอาจจะส่งผลกระทบต่อการค้าโลก รวมทั้ง กลับมาเป็นปัจจัยกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในท้ายที่สุด  


ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


เศรษฐกิจต่างประเทศ