ประเด็นความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยที่เพิ่มเติมจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่จะกระทบรายได้จากการท่องเที่ยวมาในจังหวะเวลาที่ พ.ร.บ. งบประมาณปี 2563 มีแนวโน้มล่าช้าในการบังคับใช้ ทำให้เครื่องมือทางการคลังจะยังไม่สามารถเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้อย่างเต็มที่ จึงต้องอาศัยนโยบายการเงินให้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นตัวพยุงเศรษฐกิจไทย นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยภาวะภัยแล้งที่กดดันกำลังซื้อของเกษตรกร และการเบิกจ่ายงบลงทุนที่ยังต้องรอเม็ดเงินใหม่ๆ จากงบประมาณประจำปี 2563 จากสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่เจอปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นในจังหวะเวลาพร้อมกัน ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า ในการประชุม กนง. ในวันที่ 5 ก.พ. นี้ คณะกรรมการฯ คงพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงอีกอย่างน้อย 0.25% ในกรณีที่คณะกรรมการฯ ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจไทยว่ามีความจำเป็นและเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ทางเลือกในการพิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายมี 2 แนวทาง ได้แก่ ทางเลือกแรก พิจารณาปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบเดือนก.พ. ลง 0.25% และพิจารณาปรับลดเพิ่มเติมในการประชุมรอบเดือนมี.ค. อีก 0.25% หรือ ทางเลือกที่สอง พิจารณาปรับลดลงในคราวเดียวกันได้ถึง 0.50% จากระดับปัจจุบันที่ 1.25% มาอยู่ที่ 0.75% ต่อปี
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น