สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานที่ปกคลุมพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ได้กลับมาเยือนอีกครั้ง ซึ่งเกิดจากสภาพภูมิอากาศนิ่งและจมตัว อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่าปัญหาฝุ่นละอองที่กลับมาครั้งนี้จะมีความรุนแรงขึ้นกว่าที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2562 ซึ่งสะท้อนว่า ปริมาณฝุ่นละอองในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลมีอยู่สูง และยังไม่ได้ลดระดับลงจากช่วงต้นปี
โดยจากข้อมูลดัชนีคุณภาพอากาศ ของ AQICN.ORG พบว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐาน[1]ที่ปกคลุมพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา โดยสถานการณ์ฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานแตะระดับที่เกิน 100 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ในบางช่วงเวลาระหว่างวัน และในวันที่ 30 กันยายน 2562 ค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานในบางพื้นที่แตะระดับสูงถึง 202 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ในบางช่วงเวลาระหว่างวัน
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมิน ผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินค่ามาตรฐานที่เกิดขึ้น ณ ขณะนี้ โดยผลกระทบในระยะสั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า สถานการณ์ฝุ่นละอองที่กลับมาอีกครั้ง น่าจะส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของกลุ่มผู้ป่วยโรคภูมิแพ้/ระบบทางเดินหายใจ และประชาชนบางกลุ่มที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ก็เกิดอาการเจ็บป่วยทำให้ต้องไปพบแพทย์หรือเข้ารับการรักษาพยาบาล รวมไปถึงการที่ผู้บริโภคจะต้องซื้อหน้ากากอนามัยมาสวมใส่เพื่อดูแลป้องกันสุขภาพและการซื้อสินค้าอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการดูแลสุขภาพ โดย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้ประเมิน ค่าเสียโอกาสจากประเด็นด้านสุขภาพทั้งการรักษาและการป้องกันในเบื้องต้น (กรอบระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 28 กันยายน - วันที่ 12 ตุลาคม 2562) คิดเป็นเม็ดเงินราว 700-800 ล้านบาท ภายใต้สมมติฐานที่พิจารณาจากค่าสถิติดัชนีคุณภาพอากาศของ AQICN.ORG ที่บ่งชี้ว่าคุณภาพอากาศในเดือนตุลาคมน่าจะยังไม่ถึงขั้นเป็นปัญหาที่รุนแรง แต่ปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานอาจจะกลับมาอีกครั้งในช่วงเดือนธันวาคม ต่อเนื่องถึงช่วงต้นปี
ขณะที่ผลต่อภาคการท่องเที่ยว ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า น่าจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวที่ชัดเจนนัก โดยกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลในช่วงนี้ ส่วนใหญ่จะมีการวางแผนล่วงหน้า แต่อาจจะมีการปรับกิจกรรมการท่องเที่ยวระหว่างวัน
ทั้งนี้ การประเมินผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานต่อเศรษฐกิจเป็นการประเมินตัวเลขเบื้องต้นในกรอบระยะเวลา 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จะติดตามสถานการณ์และประเมินผลกระทบตามพัฒนาการของปัญหาฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐานต่อไป
[1] ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) เกินค่ามาตรฐาน (50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร) ซึ่งเป็นระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ที่มา: กรมควบคุมมลพิษ)
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น