ล่าสุดในเดือนกันยายน 2563 จีนได้มีการส่งสัญญาณเชิงบวกต่อแผนพัฒนาเศรษฐกิจของจีนที่มีต่อการวางกลยุทธ์ของประเทศในช่วง 5 ปีข้างหน้า (ปี 2564-2568) ที่จะเริ่มใช้ในปี 2564 โดยเฉพาะในประเด็นการกลับมาเร่งสะสมสต๊อกสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งเน้นไปที่เรื่องความมั่นคงด้านอาหาร ดังนั้น การกลับมาเร่งสะสมสต๊อกสินค้าโภคภัณฑ์อาหารของจีนเพื่อความมั่นคงด้านอาหาร จะส่งผลต่อความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรของจีนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจเป็นแรงผลักสำคัญต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรโลกให้ปรับตัวสูงขึ้นได้ในขาขึ้นระลอกใหม่
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ในระยะสั้น (ปี 2564-2566) คาดว่า จะเกิดผลของอุปสงค์ที่มีต่อสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรส่วนเพิ่มที่พุ่งขึ้นจากการใช้นโยบายของจีน (Policy-led Demand) ซึ่งจะเป็นการนำเข้าเพื่อนำไปใช้เป็นสต๊อกในประเทศในระดับที่เพิ่มขึ้นจากเดิม จนสามารถเพิ่มสัดส่วนปริมาณสต๊อกให้แตะระดับร้อยละ 90.8 ของความต้องการใช้สินค้าโภคภัณฑ์เกษตร แสดงถึงความมั่นคงด้านอาหารของจีนอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งจะมีผลให้ในช่วงนี้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรจะเร่งตัวขึ้นแรง แต่คงเป็นเพียงผลในระยะสั้นเท่านั้น อย่างไรก็ดี คงต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ยังต้องติดตามผลของการใช้นโยบายอื่นๆ ของจีนในระหว่างทางที่อาจกระทบต่อระดับการปรับเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรในช่วงนี้ได้ จากนั้น คาดว่า จีนน่าจะยืนรักษาระดับอุปสงค์ที่มีต่อสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรส่วนเพิ่มต่อเนื่องไปอีกราว 5 ปี (ปี 2567-2571) เพื่อสร้างความมั่นใจด้านอาหารต่อไปอีกสักระยะ ทำให้ราคาน่าจะสามารถทรงตัวอยู่ในเกณฑ์ดีได้
สำหรับในระยะยาว ตั้งแต่ปี 2572 เป็นต้นไป คาดว่า จีนจะมีการปรับเปลี่ยนไปสู่ยุคเศรษฐกิจแบบพึ่งพาตนเอง (Self Sufficiency) ส่งผลต่อความต้องการนำเข้าสินค้าเกษตรของจีนที่ลดลง กระทบต่ออุปสงค์ที่มีต่อสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรที่อาจลดลงด้วย ทำให้เห็นภาพของราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรที่อาจปรับตัวลดลงได้ในระยะยาว
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น