Display mode (Doesn't show in master page preview)

22 มกราคม 2564

สถาบันการเงิน

ทิศทางดอกเบี้ยตลาดพันธบัตรปี 64 อาจทยอยขยับสูงขึ้น หลังปธน. โจ ไบเดนส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจ (กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 3181)

คะแนนเฉลี่ย
​                  ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของโควิดรอบใหม่ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อเส้นทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปี 2564 ให้ต่ำกว่าที่หลายฝ่ายเคยประเมินนั้น ก็ยังมีอีกประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม ก็คือ การที่ต้นทุนการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ไทยเริ่มทยอยปรับขึ้นในช่วงต้นปี 2564 ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการคาดการณ์ถึงปริมาณพันธบัตรรัฐบาลไทยที่น่าจะมีการออกเพิ่มขึ้น และอีกส่วนหนึ่งเป็นการปรับขึ้นตามทิศทางอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ได้รับอิทธิพลจากพัฒนาการทางการเมืองของสหรัฐฯ ที่นำมาสู่การดำรงตำแหน่งของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนใหม่ซึ่งก็มาพร้อมกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ 
                อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ไทยระยะปานกลางถึงยาว อาจทยอยปรับตัวสูงขึ้นตามทิศทางตลาดพันธบัตรในต่างประเทศในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยมีแรงหนุนจากสองส่วนหลัก คือ 1) ความเป็นไปได้ที่จะเห็นการทยอยปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ตามแนวโน้มการขาดดุลการคลังของสหรัฐฯ ที่ใหญ่ขึ้นกว่าที่หลายฝ่ายประเมินไว้ และ 2) คาดว่า ภารกิจในการประคองทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย จะทำให้ทางการไทยมีความต้องการระดมทุนในระดับสูงต่อเนื่องจากปีก่อน 
                 ​อย่างไรก็ดี ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า สภาพคล่องในระบบที่ยังคงอยู่ในระดับสูงยังเพียงพอรองรับแนวโน้มการระดมทุนของทั้งภาครัฐและเอกชนที่รวมกันแล้วน่าจะไม่ต่ำว่าระดับ 2 ล้านล้านบาทในปี 2564 นอกจากนี้การขยับขึ้นของต้นทุนดอกเบี้ยในตลาดพันธบัตรน่าจะถูกจำกัดกรอบไว้บางส่วนจากแนวโน้มการยืนอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับต่ำต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2564 ของธปท. ขณะที่สถานการณ์ตลาดพันธบัตรในต่างประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ยังคงขึ้นอยู่กับอีกหลายตัวแปร โดยเฉพาะความสามารถในการควบคุมการระบาดของไวรัสรอบใหม่ ความก้าวหน้าของการฉีดวัคซีนในประเทศ และแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม



ดูรายละเอียดฉบับเต็ม


สถาบันการเงิน