เศรษฐกิจจีนไตรมาส 4/2563 เติบโตที่ 6.5% ส่งผลให้ GDP จีนทั้งปี 2563 เติบโตเกินคาดที่ 2.3% เป็นผลจากความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจีนอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับการใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินและการคลังอย่างทันท่วงทีและเห็นผล ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าเศรษฐกิจจีนปี 2564 จะกลับมาเติบโตได้ในกรอบ 8.0-8.5% โดยอาศัยแรงหนุนของการบริโภคภาคเอกชนในประเทศที่เริ่มกลับมาฟื้นตัว จากกำลังซื้อของชนชั้นกลาง ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ราว 400 ล้านคน และมีรายได้ต่อหัวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากประสิทธิภาพและทักษะของแรงงานที่สูงขึ้น ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ภาครัฐยังคงไว้เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ
การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2564 จะแตกต่างออกไป จากเดิมที่มุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น เพื่อแก้ปัญหาวิกฤติโควิด-19 เป็นการให้ความสำคัญต่อการเติบโตอย่างมีคุณภาพ และเน้นที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากร ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาว ที่จะมุ่งเน้นความแข็งแกร่งของการหมุนเวียนเศรษฐกิจในประเทศ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมภาคต่างประเทศ ท่ามกลางการชะลอตัวในการลงทุนของอุตสาหกรรมดั้งเดิม และความไม่แน่นอนของตลาดส่งออก การลงทุนของภาครัฐและเอกชน ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ จะเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สอดคล้องไปกับยุทธศาสตร์ Dual Circulation ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 14 ที่จะบังคับใช้ในปี 2564-2568
แม้ว่าเศรษฐกิจจีนปี 2564 จะเริ่มเห็นทิศทางการเติบโตที่สดใส แต่ยังมีประเด็นที่ต้องติดตาม ในเรื่องการหาสมดุล ระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นกับความเสี่ยงเชิงระบบในระยะยาว จากการเพิ่มขึ้นของหนี้ภาคเอกชนในระดับสูง หลังจากการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวนมากเพื่อเพิ่มสภาพคล่องในระบบ ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ตลอดจนความเสี่ยงจากการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ ระหว่างจีนและสหรัฐ ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม
ขอบคุณภาพจาก Shutterstock.com
Scan QR Code
หมายเหตุ
รายงานวิจัยฉบับนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ทั่วไป โดยจัดทำขึ้นจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ แต่บริษัทฯ มิอาจรับรองความถูกต้อง ความน่าเชื่อถือ หรือความสมบูรณ์เพื่อใช้ในทางการค้าหรือประโยชน์อื่นใด บริษัทฯ อาจมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้ผู้ใช้ข้อมูลต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้ข้อมูลต่างๆ ด้วยวิจารณญาณตนเองและรับผิดชอบในความเสี่ยงเองทั้งสิ้น บริษัทฯ จะไม่รับผิดต่อผู้ใช้หรือบุคคลใดในความเสียหายใดจากการใช้ข้อมูลดังกล่าว ข้อมูลในรายงานฉบับนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการให้ความเห็น หรือคำแนะนำในการตัดสินใจทางธุรกิจ แต่อย่างใดทั้งสิ้น